“เที่ยวญี่ปุ่น” ดีมานด์ทะลักไฮซีซัน! JNTO โหมโปรโมทดึงคนไทยฟื้นรายได้
ถือเป็น “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญต่อตลาด “คนไทยเที่ยวญี่ปุ่น” ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง! สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องขอวีซ่า พำนักได้ไม่เกิน 15 วัน เหมือนกับช่วงปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19
ศิริพร บัณฑิตย์จิรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หลังจากญี่ปุ่นประกาศ “เปิดประเทศ” นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปได้ไม่ยุ่งยาก มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวที่เพิ่มมาจากสมัยก่อนโควิด-19 ระบาดคือ ต้อง “แสดงเอกสารรับรอง” อย่างใดอย่างหนึ่ง
ระหว่าง 1.ใบรับรองการตรวจโควิด-19 ผลเป็นลบ โดยต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากไทย ด้วยวิธีที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด เช่น RT-PCR (ไม่สามารถใช้ผลตรวจ ATK ได้)
หรือ 2.ใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ด้วยยี่ห้อวัคซีนตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศรับรอง เช่น ฉีดซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มครบ 3 เข็ม หรือฉีดซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็มแรก ตามด้วยไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือแอสตราเซเนก้าเป็นเข็มที่ 3 ก็สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้
ตามที่ JNTO ได้ติดตามผลตอบรับจากบริษัททัวร์ ส่วนใหญ่บอกว่ากระแสตอบรับดีมาก! นักท่องเที่ยวไทยต้องการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงไฮซีซัน “ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” และ “ฤดูหนาว” โดยเฉพาะช่วงหยุดยาว “เทศกาลปีใหม่” มีดีมานด์จองแพ็คเกจท่องเที่ยวเข้ามามากพอสมควร บริษัททัวร์ถึงขั้นต้องรับพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับกระแสการเดินทางที่ฟื้นตัว
“นอกจากนี้ยังรับทราบจากบริษัททัวร์เช่นกันว่า เมื่อดีมานด์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็ว ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินเส้นทางไทย-ญี่ปุ่น แพงขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยบางส่วนเลือกใช้วิธีแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย”
สำหรับแนวทางการส่งเสริมตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นนับจากนี้ JNTO จะมุ่งโปรโมทตลาดกลุ่มเดินทางซ้ำ กลุ่มเดินทางครั้งแรก และกลุ่มลักชัวรี พร้อมเชิญอินฟลูเอนเซอร์ไทยโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองรอง เพราะมั่นใจว่าสินค้าและบริการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นใน 47 จังหวัด ทั่ว 10 ภูมิภาค มีเสน่ห์ ไม่รู้เบื่อ ทำให้คนไทยต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นซ้ำหลายๆ ครั้ง
JNTO เตรียมจัดงานส่งเสริมการขาย “งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 2023” (Visit Japan FIT Fair 2023) ครั้งที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 27-29 ม.ค.2566 ณ พารากอนฮอลล์ มีกว่า 100 บูธมาร่วมงาน ทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละท้องถิ่นในญี่ปุ่น โดยคาดหวังว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานใกล้เคียงกับเมื่อปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 55,000 คน ขณะเดียวกันยังเตรียมเข้าร่วมงาน “มหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 28” (Thai International Travel Fair 2023) จัดโดยองค์กรวิชาชีพภาคการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16-19 ก.พ.2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วย
อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3Sh6QiJ
Photo Credit by : bangkokbiznews
Article Credit by : bangkokbiznews