จ่อตั้งข้อหา “แอร์โฮสเตส” หลังฝ่าฝืนมาตรการกักตัว ทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน MGR ออนไลน์ – ตำรวจนครโฮจิมินห์เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ที่ฝ่าฝืนขั้นตอนการกักตัวป้องกันโควิด-19 และทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอายุ 28 ปี อาจถูกตั้งข้อหา “แพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรงในคน” ตามการแถลงข่าวของตำรวจวันนี้ โดยข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี นับเป็นครั้งแรกที่การละเมิดกฎระเบียบการป้องกันโควิด-19 ถูกปฏิบัติในฐานะอาชญากรรม หลังจากที่ผ่านมา ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกลงโทษเพียงแค่ปรับเงินเท่านั้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้ เดินทางกลับจากญี่ปุ่นมาถึงเวียดนามในวันที่ 14 พ.ย. และถูกกักตัวเป็นเวลา 4 วัน ยังสถานที่ที่สายการบินจัดเตรียมไว้ในนครโฮจิมินห์ หลังผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบถึง 2 ครั้ง พนักงานรายนี้ได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้านพัก แต่เขากลับสัมผัสติดต่อกับแม่และเพื่อนอีก 2 คน รวมถึงครูสอนภาษาอังกฤษ ที่พักอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2-3 วัน ในวันที่ 29 พ.ย. (15 วันหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้มีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก และในวันถัดมา ครูสอนภาษาอังกฤษก็มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้แพร่เชื้อไวรัสไปยังหลานชายและนักเรียนของเขาด้วย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาออกจากบ้านในวันที่ 21 พ.ย. ไปทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่อีกเขตหนึ่งของนครโฮจิมินห์ และเดินทางไปมหาวิทยาลัย Hutech ในวันที่ 22 พ.ย. ผลการตรวจเชื้อไวรัสของครูสอนภาษาอังกฤษในวันจันทร์ (30) ทำให้สถิติการไม่มีเชื้อแพร่ระบาดในท้องถิ่นติดต่อกันเกือบ 3 เดือนต้องยุติลง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ลูกเรือของเที่ยวบินต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงเวียดนาม แต่พนักงานต้อนรับรายนี้ได้รับเชื้อไวรัสจากลูกเรืออีกคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรมาเนียและกำลังกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของสายการบิน สถานที่กักตัวของสายการบินเวียดนาม 2 แห่งในนครโฮจิมินห์ถูกปิดนับจากนั้น ทำให้พนักงาน 61 คนของสายการบินต้องย้ายไปกักตัวในโรงแรม 2 แห่ง สายการบินได้ออกหนังสือขอโทษสาธารณชนถึงเหตุการณ์พนักงานต้อนรับของสายการบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวระหว่างการกักตัวที่บ้าน จนเป็นผลให้เกิดการระบาดระลอก 3 ในประเทศ คำแถลงของสายการบิน ระบุว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวของรัฐบาลและของบริษัทอย่างร้ายแรง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการการรักษาและกักตัว พนักงานคนดังกล่าวจะถูกลงโทษ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สายการบินที่มีลูกเรือฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักตัวโควิด-19 และแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินระหว่างประเทศ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qkWstL Photo Credit by : ผู้จัดการออนไลน์ Article Credit by : MGR Online

จ่อตั้งข้อหา “แอร์โฮสเตส” หลังฝ่าฝืนมาตรการกักตัว ทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน MGR ออนไลน์ – ตำรวจนครโฮจิมินห์เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ที่ฝ่าฝืนขั้นตอนการกักตัวป้องกันโควิด-19 และทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอายุ 28 ปี อาจถูกตั้งข้อหา “แพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรงในคน” ตามการแถลงข่าวของตำรวจวันนี้ โดยข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี นับเป็นครั้งแรกที่การละเมิดกฎระเบียบการป้องกันโควิด-19 ถูกปฏิบัติในฐานะอาชญากรรม หลังจากที่ผ่านมา ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกลงโทษเพียงแค่ปรับเงินเท่านั้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้ เดินทางกลับจากญี่ปุ่นมาถึงเวียดนามในวันที่ 14 พ.ย. และถูกกักตัวเป็นเวลา 4 วัน ยังสถานที่ที่สายการบินจัดเตรียมไว้ในนครโฮจิมินห์ หลังผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบถึง 2 ครั้ง พนักงานรายนี้ได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้านพัก แต่เขากลับสัมผัสติดต่อกับแม่และเพื่อนอีก 2 คน รวมถึงครูสอนภาษาอังกฤษ ที่พักอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2-3 วัน ในวันที่ 29 พ.ย. (15 วันหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้มีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก และในวันถัดมา ครูสอนภาษาอังกฤษก็มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้แพร่เชื้อไวรัสไปยังหลานชายและนักเรียนของเขาด้วย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาออกจากบ้านในวันที่ 21 พ.ย. ไปทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่อีกเขตหนึ่งของนครโฮจิมินห์ และเดินทางไปมหาวิทยาลัย Hutech ในวันที่ 22 พ.ย. ผลการตรวจเชื้อไวรัสของครูสอนภาษาอังกฤษในวันจันทร์ (30) ทำให้สถิติการไม่มีเชื้อแพร่ระบาดในท้องถิ่นติดต่อกันเกือบ 3 เดือนต้องยุติลง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ลูกเรือของเที่ยวบินต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงเวียดนาม แต่พนักงานต้อนรับรายนี้ได้รับเชื้อไวรัสจากลูกเรืออีกคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรมาเนียและกำลังกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของสายการบิน สถานที่กักตัวของสายการบินเวียดนาม 2 แห่งในนครโฮจิมินห์ถูกปิดนับจากนั้น ทำให้พนักงาน 61 คนของสายการบินต้องย้ายไปกักตัวในโรงแรม 2 แห่ง สายการบินได้ออกหนังสือขอโทษสาธารณชนถึงเหตุการณ์พนักงานต้อนรับของสายการบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวระหว่างการกักตัวที่บ้าน จนเป็นผลให้เกิดการระบาดระลอก 3 ในประเทศ คำแถลงของสายการบิน ระบุว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวของรัฐบาลและของบริษัทอย่างร้ายแรง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการการรักษาและกักตัว พนักงานคนดังกล่าวจะถูกลงโทษ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สายการบินที่มีลูกเรือฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักตัวโควิด-19 และแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินระหว่างประเทศ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qkWstL Photo Credit by : ผู้จัดการออนไลน์ Article Credit by : MGR Online

แชร์ให้เพื่อน!

จ่อตั้งข้อหา “แอร์โฮสเตส” หลังฝ่าฝืนมาตรการกักตัว ทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน

MGR ออนไลน์ – ตำรวจนครโฮจิมินห์เริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ที่ฝ่าฝืนขั้นตอนการกักตัวป้องกันโควิด-19 และทำให้ผู้อื่นติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอายุ 28 ปี อาจถูกตั้งข้อหา “แพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรงในคน” ตามการแถลงข่าวของตำรวจวันนี้ โดยข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี

นับเป็นครั้งแรกที่การละเมิดกฎระเบียบการป้องกันโควิด-19 ถูกปฏิบัติในฐานะอาชญากรรม หลังจากที่ผ่านมา ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกลงโทษเพียงแค่ปรับเงินเท่านั้น

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้ เดินทางกลับจากญี่ปุ่นมาถึงเวียดนามในวันที่ 14 พ.ย. และถูกกักตัวเป็นเวลา 4 วัน ยังสถานที่ที่สายการบินจัดเตรียมไว้ในนครโฮจิมินห์

หลังผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบถึง 2 ครั้ง พนักงานรายนี้ได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้านพัก แต่เขากลับสัมผัสติดต่อกับแม่และเพื่อนอีก 2 คน รวมถึงครูสอนภาษาอังกฤษ ที่พักอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2-3 วัน

ในวันที่ 29 พ.ย. (15 วันหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้มีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก และในวันถัดมา ครูสอนภาษาอังกฤษก็มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้แพร่เชื้อไวรัสไปยังหลานชายและนักเรียนของเขาด้วย

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาออกจากบ้านในวันที่ 21 พ.ย. ไปทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่อีกเขตหนึ่งของนครโฮจิมินห์ และเดินทางไปมหาวิทยาลัย Hutech ในวันที่ 22 พ.ย.

ผลการตรวจเชื้อไวรัสของครูสอนภาษาอังกฤษในวันจันทร์ (30) ทำให้สถิติการไม่มีเชื้อแพร่ระบาดในท้องถิ่นติดต่อกันเกือบ 3 เดือนต้องยุติลง

ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ลูกเรือของเที่ยวบินต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงเวียดนาม แต่พนักงานต้อนรับรายนี้ได้รับเชื้อไวรัสจากลูกเรืออีกคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรมาเนียและกำลังกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของสายการบิน

สถานที่กักตัวของสายการบินเวียดนาม 2 แห่งในนครโฮจิมินห์ถูกปิดนับจากนั้น ทำให้พนักงาน 61 คนของสายการบินต้องย้ายไปกักตัวในโรงแรม 2 แห่ง

สายการบินได้ออกหนังสือขอโทษสาธารณชนถึงเหตุการณ์พนักงานต้อนรับของสายการบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวระหว่างการกักตัวที่บ้าน จนเป็นผลให้เกิดการระบาดระลอก 3 ในประเทศ

คำแถลงของสายการบิน ระบุว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวของรัฐบาลและของบริษัทอย่างร้ายแรง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการการรักษาและกักตัว พนักงานคนดังกล่าวจะถูกลงโทษ

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สายการบินที่มีลูกเรือฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักตัวโควิด-19 และแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินระหว่างประเทศ

อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qkWstL
Photo Credit by : ผู้จัดการออนไลน์
Article Credit by : MGR Online

128426339_3291602577610796_1586362001790

อ่านต่อบน Facebook

Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์