ดึงโมเดล “ตลาดปลาญี่ปุ่น” อัพเกรด “สะพานปลา”
การพลิกกลับมาทำกำไรปี 2563 ขององค์การสะพานปลา (อสป.) ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับรัฐวิสาหกิจ 1 ใน 3 ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประสบปัญหาขาดทุนสะสม กระทั่งเสี่ยงจะถูกยุบ ได้เร่งรีเซตองค์การสะพานปลา 18 แห่ง ปรับบทบาทองค์กร-แผนงานให้ทันสมัยมากขึ้น
นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) ยอมรับว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งช่วงกลางปี 2562 อสป.ถูกตัดงบประมาณจากภาครัฐ เนื่องจากปี 2561-2562 เบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 26% ของงบฯทั้งหมด กระทั่งปีนี้ 2563 เริ่มกลับมามีรายได้กว่า 200 ล้านบาท
และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 25 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่าย ถือเป็นกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยเป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของทั้งหมด นอกเหนือจากรายได้ค่าธรรมเนียม 45% และรายได้อื่น ๆ 25% ซึ่งจากนี้ อสป.พร้อมจะนำรายได้นี้ส่งเข้าคลังรัฐ 40%
นายมณเฑียรได้นำไอเดียตลาดปลาโทโยซุ (Toyosu Market) ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งอาหารกรุงโตเกียวมาปรับใช้ในการพัฒนา อสป.เป็นตลาดปลาทันสมัย รองรับธุรกิจทั้งค้าขายสินค้าประมง และรองรับนักท่องเที่ยว
โดยชูนโยบายย้ายทะเลขึ้นเหนือ ทำให้ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และชลบุรี และอนาคตจะเชื่อมโยงถึงภาคอีสาน ที่ควรจะต้องมี “ตลาดปลาลุ่มน้ำโขง” ซึ่งตลาดปลาทั้ง 5 แห่ง ตั้งงบประมาณลงทุน 15,000 ล้านบาท หรือ 3,000 ล้านบาทต่อแห่ง
โดยคาดว่ารายได้จากการเริ่มโครงการลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากโมเดลตลาดปลาอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นตลาดที่มีสินค้าสัตว์น้ำที่มีมาตรฐานถูกสุขอนามัย สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร และสินค้าประมง ยกระดับรายได้อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์และผู้ค้าสัตว์น้ำในชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจเป็นแหล่งท่องเที่ยว 328 ร้านค้า ที่จะเปิดดำเนินการในเดือน ม.ค. 2564 โดยนำรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ล่วงหน้า เก็บเงินเหมือนเงินดาวน์ เงินเกี๊ยวมาใช้ก่อน เพื่อลงทุนตามแผนกระจายสินค้านอกชายฝั่ง
อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2ULKBGx
Photo Credit by : ประชาชาติธุรกิจ
Article Credit by : ประชาชาติธุรกิจ