“นกแอร์” พร้อมฟื้นฟู! เร่งลดต้นทุน-หารายได้
ขณะนี้นกแอร์เตรียมระดมกำลังพัฒนาแผนฟื้นฟูกิจการและเตรียมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการให้เร็วที่สุดภายในเดือนมกราคม 2564 ตามกำหนด (3 เดือนนับแต่ศาลมีคำสั่ง) โดยหากไม่แล้วเสร็จสามารถยื่นขยายระยะเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน
พร้อมบอกว่า ที่ผ่านมาปัญหาหลักของ “นกแอร์” คือ ต้นทุนค่าเช่าเครื่องบิน และค่าซ่อมบำรุงที่มีสัดส่วนกว่า 40% โดยค่าเช่าเครื่องบินของนกแอร์ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานของภาพรวมอุตสาหกรรม และกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้นกแอร์มีต้นทุนสูง และเป็นต้นทุนที่ยากต่อการเจรจาต่อรอง แม้ว่าจะพยายามเปิดการเจรจาขอปรับสัญญากับผู้ให้เช่าเครื่องบินมาโดยตลอด
โดยหลังจากนี้ นกแอร์จะเดินหน้าเจรจาแก้ไขสัญญาการเช่าเครื่องบินใหม่ตามลำดับ โดยเชื่อว่าหลังวิกฤตโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบต่อเนื่องทั่วถึงกัน หลายสายการบินจำเป็นต้องถอนตัวออกจากอุตฯ ตลาดจึงกลายเป็นของผู้เช่าเครื่องบิน ซึ่งนกแอร์จะพยายามเลือกทางที่ดีที่สุด
พร้อมทั้งยังเตรียมปรับแผนการบินเพื่อสร้างกำไรที่ดีที่สุด เลือกบริการเส้นทางที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ สังคม และสายการบิน โดยมองหาโอกาสขยายเส้นทางบินข้ามภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่-หาดใหญ่ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ฯลฯ
รวมถึงยังเตรียมศึกษาแผนการบินระหว่างประเทศในเส้นทางระยะไกลสู่ภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และตะวันออกกลาง อาทิ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฯลฯ พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และผนึกพันธมิตรเพิ่มคุณค่าการบริการ โดยยืนยันว่านกแอร์มีกระแสเงินสดหลักพันล้านบาทเพียงพอสำหรับการขยายเส้นทางและปรับแผนได้อย่างคล่องตัว และปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับฝูงบิน
“วุฒิภูมิ” ย้ำด้วยว่า ตอนนี้นกแอร์ให้บริการตามปกติเสมือนเดิมแล้ว โดยปัจจุบันใช้งานเครื่องบิน 22 ลำเต็มฝูงบิน ให้บริการรับส่งผู้โดยสารกว่า 604 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พร้อมอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่เติบโตเป็นลำดับจาก 30% ในช่วงแรก มาจนถึง 70% ในปัจจุบัน และเชื่อว่าอัตราการบรรทุกจะขยับขึ้นเรื่อย ๆ ในไฮซีซั่นนี้
ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและดำเนินการขออนุญาตรับเครื่องบินเข้าสู่ฝูงอีก 2 ลำ ภายในต้นปี 2564 นี้อีกด้วย
อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2JNYFgo
Photo Credit by : Prachachat
Article Credit by : Prachachat
ก้าวสู่การจัดทำแผนฟื้นฟูเป็นสายการบินที่ 2 ของไทยเรียบร้อยสำหรับสายการบิน “นกแอร์” หลังจากที่ศาลล้มละลา….