สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งเกาะซาโดะ จากท่าเรือในเมืองนีงาตะ (Niigata) สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง “เกาะซาโดะ (Sado Island)” ที่ครบครันไปด้วยที่เที่ยวมากมาย 🛶 ล่องเรือทาไรบุเนะ (Tarai Bune) เรือไม้ทรงกลมขนาดเล็ก โดยมีฝีพายหญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองพร้อมสวมหมวกใบใหญ่ พาล่องเรือชมวิวอันงดงาม หรือหากอยากลองพายเรือด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน 🚙 อีกหนึ่งวิธีเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะที่แสนสะดวกก็คือ “การเช่ารถขับ” ซึ่งมีให้บริการรถเช่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ สามารถขับรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวแบบ 1 วัน รถบัสประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และจักรยานให้เช่า ก็มีครบ 📷 จุดท่องเที่ยวแนะนำ อาทิ “โอโนะกาเมะ (Onogame)” ที่ได้รับเลือกจากมิชลินกรีนไกด์แจแปน การันตีความงามของทิวทัศน์ถึง 2 ดาว เป็นเนินหินที่ยื่นไปในทะเล แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันตระการตา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง (หรือ Tobishima kanzo) บานสะพรั่งงดงามกว่า 5 แสนต้น 📷 และสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง “หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)” เป็นแหล่งที่พักอาศัยของพ่อค้าและชาวบ้านที่มีอาชีพต่อเรือ ในสมัยที่เหมืองแร่ทองคำบนเกาะรุ่งเรือง บ้านเรือนกว่า 100 หลังในหมู่บ้านจึงสร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใช้ในการต่อเรือ ได้รับการยกย่องให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของชาติ โดยมีบ้าน 3 หลังที่เปิดให้เข้าชมด้านในได้ 🍱 เกาะซาโดะยังมีเมนูอาหารทะเลน่าลิ้มลอง ได้แก่ ซาโดะเทนเนนบุริ คัตสึด้ง (Sado Tennenburi-katsudon) ที่นำ “ปลาบุริ” วัตถุดิบขึ้นชื่อ มาชุบแป้งทอดแล้ววางบนข้าว ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ และยังมีเมนูอื่นๆ จากกุ้ง ปลาหมึก ปูหิมะ เป็นต้น ⛺️ แนะนำให้พักค้างแรมสักคืนที่เกาะซาโดะ โดยเฉพาะที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยบางแห่งเป็นบ้านอายุกว่า 100 ปี และมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้ร่วมทำอย่าง ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว เก็บลูกพลับ ทอผ้า ทำอาหาร ร่วมงานเทศกาลท้องถิ่น ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล 🚆 การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata Station) ซึ่งมีรถไฟชินคังเซ็นวิ่งผ่าน สามารถนั่งรถบัส ประมาณ 30 นาที ไปลงที่ป้าย Niigata Port จากนั้นโดยสารเรือไปยังท่าเรือ Ryotsu Port บนเกาะซาโดะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที อย่าลืมแท็ก #visitjapanth หากอนุญาตให้แชร์ภาพเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในอินสตาแกรมของJNTO เครดิต​ข้อมูล​:JNTO

สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งเกาะซาโดะ จากท่าเรือในเมืองนีงาตะ (Niigata) สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง “เกาะซาโดะ (Sado Island)” ที่ครบครันไปด้วยที่เที่ยวมากมาย 🛶 ล่องเรือทาไรบุเนะ (Tarai Bune) เรือไม้ทรงกลมขนาดเล็ก โดยมีฝีพายหญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองพร้อมสวมหมวกใบใหญ่ พาล่องเรือชมวิวอันงดงาม หรือหากอยากลองพายเรือด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน 🚙 อีกหนึ่งวิธีเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะที่แสนสะดวกก็คือ “การเช่ารถขับ” ซึ่งมีให้บริการรถเช่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ สามารถขับรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวแบบ 1 วัน รถบัสประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และจักรยานให้เช่า ก็มีครบ 📷 จุดท่องเที่ยวแนะนำ อาทิ “โอโนะกาเมะ (Onogame)” ที่ได้รับเลือกจากมิชลินกรีนไกด์แจแปน การันตีความงามของทิวทัศน์ถึง 2 ดาว เป็นเนินหินที่ยื่นไปในทะเล แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันตระการตา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง (หรือ Tobishima kanzo) บานสะพรั่งงดงามกว่า 5 แสนต้น 📷 และสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง “หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)” เป็นแหล่งที่พักอาศัยของพ่อค้าและชาวบ้านที่มีอาชีพต่อเรือ ในสมัยที่เหมืองแร่ทองคำบนเกาะรุ่งเรือง บ้านเรือนกว่า 100 หลังในหมู่บ้านจึงสร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใช้ในการต่อเรือ ได้รับการยกย่องให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของชาติ โดยมีบ้าน 3 หลังที่เปิดให้เข้าชมด้านในได้ 🍱 เกาะซาโดะยังมีเมนูอาหารทะเลน่าลิ้มลอง ได้แก่ ซาโดะเทนเนนบุริ คัตสึด้ง (Sado Tennenburi-katsudon) ที่นำ “ปลาบุริ” วัตถุดิบขึ้นชื่อ มาชุบแป้งทอดแล้ววางบนข้าว ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ และยังมีเมนูอื่นๆ จากกุ้ง ปลาหมึก ปูหิมะ เป็นต้น ⛺️ แนะนำให้พักค้างแรมสักคืนที่เกาะซาโดะ โดยเฉพาะที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยบางแห่งเป็นบ้านอายุกว่า 100 ปี และมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้ร่วมทำอย่าง ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว เก็บลูกพลับ ทอผ้า ทำอาหาร ร่วมงานเทศกาลท้องถิ่น ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล 🚆 การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata Station) ซึ่งมีรถไฟชินคังเซ็นวิ่งผ่าน สามารถนั่งรถบัส ประมาณ 30 นาที ไปลงที่ป้าย Niigata Port จากนั้นโดยสารเรือไปยังท่าเรือ Ryotsu Port บนเกาะซาโดะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที อย่าลืมแท็ก #visitjapanth หากอนุญาตให้แชร์ภาพเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในอินสตาแกรมของJNTO เครดิต​ข้อมูล​:JNTO

แชร์ให้เพื่อน!

สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งเกาะซาโดะ

จากท่าเรือในเมืองนีงาตะ (Niigata) สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง “เกาะซาโดะ (Sado Island)” ที่ครบครันไปด้วยที่เที่ยวมากมาย

🛶 ล่องเรือทาไรบุเนะ (Tarai Bune) เรือไม้ทรงกลมขนาดเล็ก โดยมีฝีพายหญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองพร้อมสวมหมวกใบใหญ่ พาล่องเรือชมวิวอันงดงาม หรือหากอยากลองพายเรือด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน

🚙 อีกหนึ่งวิธีเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะที่แสนสะดวกก็คือ “การเช่ารถขับ” ซึ่งมีให้บริการรถเช่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ สามารถขับรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวแบบ 1 วัน รถบัสประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และจักรยานให้เช่า ก็มีครบ

📷 จุดท่องเที่ยวแนะนำ อาทิ “โอโนะกาเมะ (Onogame)” ที่ได้รับเลือกจากมิชลินกรีนไกด์แจแปน การันตีความงามของทิวทัศน์ถึง 2 ดาว เป็นเนินหินที่ยื่นไปในทะเล แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันตระการตา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง (หรือ Tobishima kanzo) บานสะพรั่งงดงามกว่า 5 แสนต้น

📷 และสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง “หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)” เป็นแหล่งที่พักอาศัยของพ่อค้าและชาวบ้านที่มีอาชีพต่อเรือ ในสมัยที่เหมืองแร่ทองคำบนเกาะรุ่งเรือง บ้านเรือนกว่า 100 หลังในหมู่บ้านจึงสร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใช้ในการต่อเรือ ได้รับการยกย่องให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของชาติ โดยมีบ้าน 3 หลังที่เปิดให้เข้าชมด้านในได้

🍱 เกาะซาโดะยังมีเมนูอาหารทะเลน่าลิ้มลอง ได้แก่ ซาโดะเทนเนนบุริ คัตสึด้ง (Sado Tennenburi-katsudon) ที่นำ “ปลาบุริ” วัตถุดิบขึ้นชื่อ มาชุบแป้งทอดแล้ววางบนข้าว ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ และยังมีเมนูอื่นๆ จากกุ้ง ปลาหมึก ปูหิมะ เป็นต้น

⛺️ แนะนำให้พักค้างแรมสักคืนที่เกาะซาโดะ โดยเฉพาะที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยบางแห่งเป็นบ้านอายุกว่า 100 ปี และมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้ร่วมทำอย่าง ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว เก็บลูกพลับ ทอผ้า ทำอาหาร ร่วมงานเทศกาลท้องถิ่น ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล

🚆 การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata Station) ซึ่งมีรถไฟชินคังเซ็นวิ่งผ่าน สามารถนั่งรถบัส ประมาณ 30 นาที ไปลงที่ป้าย Niigata Port จากนั้นโดยสารเรือไปยังท่าเรือ Ryotsu Port บนเกาะซาโดะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

อย่าลืมแท็ก #visitjapanth หากอนุญาตให้แชร์ภาพเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในอินสตาแกรมของJNTO

เครดิต​ข้อมูล​:JNTO

271900082_1722779177925057_4340031296910

อ่านต่อบน Facebook

Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์