“ออนเซ็นกลางแจ้ง” เปิดหมุดหมายใหม่เที่ยวญี่ปุ่น ฟินกลางหิมะในบรรยากาศ หน้าหนาวนี้ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” สัมผัสหิมะโปรยที่ญี่ปุ่น ฟินกับเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ที่จะชวนคุยตะลุยแช่น้ำพร้อมกับวิวสุดอลังการ เป็นทริปที่จดจำไม่รู้ลืม เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ทั่วทั้งภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้เกิดทิวทัศน์อันงดงามที่ให้อารมณ์ต่างไปตามแต่ละท้องที่ กิจกรรมห้ามพลาดในช่วงนี้คือการแช่ออนเซ็น แต่หากเป็นออนเซ็นในร่มก็จะธรรมดาไป วันนี้จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมารู้จักกับ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” ซึ่งแต่ละแห่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมไปตะลุยแช่ 6 ออนเซ็นพลางดื่มด่ำวิวหิมะสุดตระการตากัน -ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ (Oirase Stream Onsen) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ เป็นที่พักออนเซ็นขนาดเล็กที่มีห้องให้เลือกเข้าพัก 8 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับ “ลำธารโออิราเสะ” ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ และน้ำแร่บริสุทธิ์ใสสะอาดไร้สี วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) ไปลงสถานี Shin-Aomori Station ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้นั่งรถบัส JR Tohoku สาย Oirase หรือ สาย Mizuumi ไปลงที่ป้าย Towadako Onsenkyo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที -ฮิกาชิยามะออนเซ็น (Higashiyama Onsen) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นแหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,300 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 โออุซันระคุเคียว (สามแหล่งออนเซ็นชั้นเลิศในแถบโออุ) นอกจากผู้ที่มาเยือนจะได้พักผ่อนเยียวยาร่างกายด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์ซึ่งมีส่วนผสมของโซเดียมซัลเฟตเป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมบริเวณโดยรอบอีกด้วย วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Koriyama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Ban Etsusai ไปลงสถานี Aizu-Wakamatsu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แล้วนั่งรถบัส Aizu “Akabe” ประมาณ 20 นาที หรือรถบัส “Haikara-san” ประมาณ 40 นาที -ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น (Higashinaruko Onsen) จังหวัดมิยากิ (Miyagi) ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีชนิด และคุณสมบัติน้ำแร่ที่หลากหลายในญี่ปุ่น จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทำให้ผู้คนนิยมชวนครอบครัว และเพื่อนฝูงมาตระเวนแช่บ่อน้ำพุร้อนให้ครบทุกบ่อ สำหรับบ่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “บ่อน้ำแร่สำหรับสาวงาม” มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Furukawa Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Rikuuto Line ไปลงสถานี Naruko-Gotenyu ใช้เวลาประมาณ 40 นาที -นิวโตะออนเซ็น (Nyuto Onsen) จังหวัดอาคิตะ (Akita) นิวโตออนเซ็นคือหมู่บ้านออนเซ็นที่ประกอบด้วยออนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง แต่ละแห่งมีคุณสมบัติของน้ำแร่ต่างกันไป สำหรับออนเซ็นที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในนี้คือ “ทซึรุโนะยุ” เพราะเป็นออนเซ็นที่ขุนนางผู้มีชื่อเสียงในสมัยก่อนเคยใช้รักษาตัว ลักษณะที่พักจะเป็นบ้านซามูไรสมัยก่อน ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุค โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หิมะตกโปรยปรายทำให้ได้บรรยากาศแสนโรแมนติก วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Akita Shinkansen (Komachi) มาลงที่สถานี JR Tazawako ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนั่งรถบัส Ugo kotsu มาลงป้าย Nyuto Ganiba Onsen ใช้เวลาประมาณ 45 นาที -กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) กินซังออนเซ็นเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านออนเซ็นที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาแช่ออนเซ็นแล้ว ยังนิยมมาถ่ายรูปกับอาคารไม้โบราณที่ตัดกับผนังสีขาว เพราะอาคารเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยปลายยุคไทโชทำให้ที่นี่มีบรรยากาศโรแมนติกชวนให้ย้อนรำลึกถึงวันวานในอดีต และยังเป็นฉากในซีรี่ส์ชื่อดังอย่างเรื่องโอชินอีกด้วย วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Yamagata Shinkansen (Tsubasa) ไปยังสถานี Oishida ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นให้นั่งรถบัสต่อไปยัง Ginzan Onsen ใช้เวลาประมาณ 35 นาที -โอซาวะออนเซ็น (Osawa Onsen) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) โอซาวะออนเซ็นเป็นบ่อน้ำร้อนเก่าแก่ที่ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน ได้รับการยกย่องให้เป็นที่พักออนเซ็นที่หลงเหลือกลิ่นอายในอดีตของภูมิภาคโทโฮคุ ปัจจุบันภายในพื้นที่มีที่พักออนเซ็นให้เลือกใช้ถึง 6 แห่ง สำหรับที่พักห้ามพลาดคือ “ซันซุยคะคุ” ที่พัก 5 ดาวสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ และ “โทจิยะ” ที่พักเก่าแก่ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 220 ปี วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) หรือ (Yamabiko) ไปลงสถานี Kitakami ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR สาย Tohoku ไปยังสถานี Hanamaki ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วนั่งบัสสาย Shinnamari Onsen ไปยัง Osawa Onsen ใช้เวลาประมาณ 25 นาที อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3FhncFf Photo Credit by : springnews Article Credit by : springnews

“ออนเซ็นกลางแจ้ง” เปิดหมุดหมายใหม่เที่ยวญี่ปุ่น ฟินกลางหิมะในบรรยากาศ หน้าหนาวนี้ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” สัมผัสหิมะโปรยที่ญี่ปุ่น ฟินกับเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ที่จะชวนคุยตะลุยแช่น้ำพร้อมกับวิวสุดอลังการ เป็นทริปที่จดจำไม่รู้ลืม เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ทั่วทั้งภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้เกิดทิวทัศน์อันงดงามที่ให้อารมณ์ต่างไปตามแต่ละท้องที่ กิจกรรมห้ามพลาดในช่วงนี้คือการแช่ออนเซ็น แต่หากเป็นออนเซ็นในร่มก็จะธรรมดาไป วันนี้จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมารู้จักกับ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” ซึ่งแต่ละแห่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมไปตะลุยแช่ 6 ออนเซ็นพลางดื่มด่ำวิวหิมะสุดตระการตากัน -ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ (Oirase Stream Onsen) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ เป็นที่พักออนเซ็นขนาดเล็กที่มีห้องให้เลือกเข้าพัก 8 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับ “ลำธารโออิราเสะ” ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ และน้ำแร่บริสุทธิ์ใสสะอาดไร้สี วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) ไปลงสถานี Shin-Aomori Station ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้นั่งรถบัส JR Tohoku สาย Oirase หรือ สาย Mizuumi ไปลงที่ป้าย Towadako Onsenkyo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที -ฮิกาชิยามะออนเซ็น (Higashiyama Onsen) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นแหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,300 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 โออุซันระคุเคียว (สามแหล่งออนเซ็นชั้นเลิศในแถบโออุ) นอกจากผู้ที่มาเยือนจะได้พักผ่อนเยียวยาร่างกายด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์ซึ่งมีส่วนผสมของโซเดียมซัลเฟตเป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมบริเวณโดยรอบอีกด้วย วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Koriyama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Ban Etsusai ไปลงสถานี Aizu-Wakamatsu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แล้วนั่งรถบัส Aizu “Akabe” ประมาณ 20 นาที หรือรถบัส “Haikara-san” ประมาณ 40 นาที -ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น (Higashinaruko Onsen) จังหวัดมิยากิ (Miyagi) ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีชนิด และคุณสมบัติน้ำแร่ที่หลากหลายในญี่ปุ่น จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทำให้ผู้คนนิยมชวนครอบครัว และเพื่อนฝูงมาตระเวนแช่บ่อน้ำพุร้อนให้ครบทุกบ่อ สำหรับบ่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “บ่อน้ำแร่สำหรับสาวงาม” มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Furukawa Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Rikuuto Line ไปลงสถานี Naruko-Gotenyu ใช้เวลาประมาณ 40 นาที -นิวโตะออนเซ็น (Nyuto Onsen) จังหวัดอาคิตะ (Akita) นิวโตออนเซ็นคือหมู่บ้านออนเซ็นที่ประกอบด้วยออนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง แต่ละแห่งมีคุณสมบัติของน้ำแร่ต่างกันไป สำหรับออนเซ็นที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในนี้คือ “ทซึรุโนะยุ” เพราะเป็นออนเซ็นที่ขุนนางผู้มีชื่อเสียงในสมัยก่อนเคยใช้รักษาตัว ลักษณะที่พักจะเป็นบ้านซามูไรสมัยก่อน ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุค โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หิมะตกโปรยปรายทำให้ได้บรรยากาศแสนโรแมนติก วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Akita Shinkansen (Komachi) มาลงที่สถานี JR Tazawako ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนั่งรถบัส Ugo kotsu มาลงป้าย Nyuto Ganiba Onsen ใช้เวลาประมาณ 45 นาที -กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) กินซังออนเซ็นเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านออนเซ็นที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาแช่ออนเซ็นแล้ว ยังนิยมมาถ่ายรูปกับอาคารไม้โบราณที่ตัดกับผนังสีขาว เพราะอาคารเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยปลายยุคไทโชทำให้ที่นี่มีบรรยากาศโรแมนติกชวนให้ย้อนรำลึกถึงวันวานในอดีต และยังเป็นฉากในซีรี่ส์ชื่อดังอย่างเรื่องโอชินอีกด้วย วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Yamagata Shinkansen (Tsubasa) ไปยังสถานี Oishida ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นให้นั่งรถบัสต่อไปยัง Ginzan Onsen ใช้เวลาประมาณ 35 นาที -โอซาวะออนเซ็น (Osawa Onsen) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) โอซาวะออนเซ็นเป็นบ่อน้ำร้อนเก่าแก่ที่ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน ได้รับการยกย่องให้เป็นที่พักออนเซ็นที่หลงเหลือกลิ่นอายในอดีตของภูมิภาคโทโฮคุ ปัจจุบันภายในพื้นที่มีที่พักออนเซ็นให้เลือกใช้ถึง 6 แห่ง สำหรับที่พักห้ามพลาดคือ “ซันซุยคะคุ” ที่พัก 5 ดาวสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ และ “โทจิยะ” ที่พักเก่าแก่ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 220 ปี วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) หรือ (Yamabiko) ไปลงสถานี Kitakami ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR สาย Tohoku ไปยังสถานี Hanamaki ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วนั่งบัสสาย Shinnamari Onsen ไปยัง Osawa Onsen ใช้เวลาประมาณ 25 นาที อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3FhncFf Photo Credit by : springnews Article Credit by : springnews

แชร์ให้เพื่อน!

“ออนเซ็นกลางแจ้ง” เปิดหมุดหมายใหม่เที่ยวญี่ปุ่น ฟินกลางหิมะในบรรยากาศ

หน้าหนาวนี้ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” สัมผัสหิมะโปรยที่ญี่ปุ่น ฟินกับเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ที่จะชวนคุยตะลุยแช่น้ำพร้อมกับวิวสุดอลังการ เป็นทริปที่จดจำไม่รู้ลืม
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ทั่วทั้งภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้เกิดทิวทัศน์อันงดงามที่ให้อารมณ์ต่างไปตามแต่ละท้องที่ กิจกรรมห้ามพลาดในช่วงนี้คือการแช่ออนเซ็น แต่หากเป็นออนเซ็นในร่มก็จะธรรมดาไป วันนี้จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมารู้จักกับ “ออนเซ็นกลางแจ้ง” ซึ่งแต่ละแห่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมไปตะลุยแช่ 6 ออนเซ็นพลางดื่มด่ำวิวหิมะสุดตระการตากัน

-ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ (Oirase Stream Onsen) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
ออนเซ็นลำธารโออิราเสะ เป็นที่พักออนเซ็นขนาดเล็กที่มีห้องให้เลือกเข้าพัก 8 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับ “ลำธารโออิราเสะ” ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ และน้ำแร่บริสุทธิ์ใสสะอาดไร้สี

วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) ไปลงสถานี Shin-Aomori Station ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้นั่งรถบัส JR Tohoku สาย Oirase หรือ สาย Mizuumi ไปลงที่ป้าย Towadako Onsenkyo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที

-ฮิกาชิยามะออนเซ็น (Higashiyama Onsen) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)
ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นแหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,300 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 โออุซันระคุเคียว (สามแหล่งออนเซ็นชั้นเลิศในแถบโออุ) นอกจากผู้ที่มาเยือนจะได้พักผ่อนเยียวยาร่างกายด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์ซึ่งมีส่วนผสมของโซเดียมซัลเฟตเป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมบริเวณโดยรอบอีกด้วย

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Koriyama ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Ban Etsusai ไปลงสถานี Aizu-Wakamatsu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แล้วนั่งรถบัส Aizu “Akabe” ประมาณ 20 นาที หรือรถบัส “Haikara-san” ประมาณ 40 นาที

-ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น (Higashinaruko Onsen) จังหวัดมิยากิ (Miyagi)
ฮิกาชินารูโกะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีชนิด และคุณสมบัติน้ำแร่ที่หลากหลายในญี่ปุ่น จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทำให้ผู้คนนิยมชวนครอบครัว และเพื่อนฝูงมาตระเวนแช่บ่อน้ำพุร้อนให้ครบทุกบ่อ สำหรับบ่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “บ่อน้ำแร่สำหรับสาวงาม” มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Yamabiko) ไปลงสถานี Furukawa Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที จากนั้นให้นั่งรถไฟ JR สาย Rikuuto Line ไปลงสถานี Naruko-Gotenyu ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

-นิวโตะออนเซ็น (Nyuto Onsen) จังหวัดอาคิตะ (Akita)
นิวโตออนเซ็นคือหมู่บ้านออนเซ็นที่ประกอบด้วยออนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง แต่ละแห่งมีคุณสมบัติของน้ำแร่ต่างกันไป สำหรับออนเซ็นที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในนี้คือ “ทซึรุโนะยุ” เพราะเป็นออนเซ็นที่ขุนนางผู้มีชื่อเสียงในสมัยก่อนเคยใช้รักษาตัว ลักษณะที่พักจะเป็นบ้านซามูไรสมัยก่อน ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุค โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หิมะตกโปรยปรายทำให้ได้บรรยากาศแสนโรแมนติก

วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST :
จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Akita Shinkansen (Komachi) มาลงที่สถานี JR Tazawako ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนั่งรถบัส Ugo kotsu มาลงป้าย Nyuto Ganiba Onsen ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

-กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)
กินซังออนเซ็นเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านออนเซ็นที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาแช่ออนเซ็นแล้ว ยังนิยมมาถ่ายรูปกับอาคารไม้โบราณที่ตัดกับผนังสีขาว เพราะอาคารเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยปลายยุคไทโชทำให้ที่นี่มีบรรยากาศโรแมนติกชวนให้ย้อนรำลึกถึงวันวานในอดีต และยังเป็นฉากในซีรี่ส์ชื่อดังอย่างเรื่องโอชินอีกด้วย

วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR สาย Yamagata Shinkansen (Tsubasa) ไปยังสถานี Oishida ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นให้นั่งรถบัสต่อไปยัง Ginzan Onsen ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

-โอซาวะออนเซ็น (Osawa Onsen) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
โอซาวะออนเซ็นเป็นบ่อน้ำร้อนเก่าแก่ที่ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน ได้รับการยกย่องให้เป็นที่พักออนเซ็นที่หลงเหลือกลิ่นอายในอดีตของภูมิภาคโทโฮคุ ปัจจุบันภายในพื้นที่มีที่พักออนเซ็นให้เลือกใช้ถึง 6 แห่ง สำหรับที่พักห้ามพลาดคือ “ซันซุยคะคุ” ที่พัก 5 ดาวสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ และ “โทจิยะ” ที่พักเก่าแก่ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 220 ปี

วิธีการเดินทาง : จากสถานีโตเกียว ให้นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku Shinkansen (Hayabusa) หรือ (Yamabiko) ไปลงสถานี Kitakami ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR สาย Tohoku ไปยังสถานี Hanamaki ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วนั่งบัสสาย Shinnamari Onsen ไปยัง Osawa Onsen ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3FhncFf
Photo Credit by : springnews
Article Credit by : springnews

313171215_5280944648676569_8857619148822

อ่านต่อบน Facebook

Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์