“เที่ยวญี่ปุ่น” แบบไม่ต้องโชว์ผลตรวจโควิด-19 เริ่ม 7 ก.ย. ต้องเตรียมอะไรบ้าง “ญี่ปุ่น” ไฟเขียวยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศแผนต้อนรับนักท่องเที่ยว อนุญาตเที่ยวได้ไม่ต้องมีไกด์กับผู้ถือหนังสือเดินทางทุกประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ รัฐบาลของคิชิดะเริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศในจำนวนจำกัดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น การเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจทัวร์พร้อมมัคคุเทศก์ ด้าน เพจเฟซบุ๊กของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ” สำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565) สำหรับผู้เดินทางทุกคนที่มาจากประเทศ/ภูมิภาคที่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (ตระกูล B.1.1.539) เป็นสายพันธุ์เด่น หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด (ใบรับรองที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่าถูกต้อง และเป็นใบรับรองยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนสามครั้งแล้วตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบ 2 ของมาตรการ (28) บุคคลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิดเป็นลบที่ต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2565 เป็นต้นไป รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใบรับรองผลตรวจโควิด: https://www.mhlw.go.jp/content/000980075.pdf รายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติ: https://www.mofa.go.jp/ca/fna/page24e_000317.html รายละเอียดเกี่ยวกับใบรับรองการฉีดวัคซีนที่อนุมติให้ใช้ได้ ข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย: https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_ja/news_20220225-3.html เชิญดูรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวได้ที่นี่ https://bit.ly/3AZUh6b หมายเหตุ: ข่าวอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีการเปลี่ยนแปลง ทาง JNTO จะแจ้งให้ทราบต่อไป สำหรับการเตรียมตัวก่อนการเดินทางมาญี่ปุ่นนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้คำแนะนำคนไทยไว้ดังนี้ 1.ตรวจสอบข้อมูลที่เที่ยว : โดยศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางให้รอบคอบโดยเฉพาะการเดินทาง ภูมิอากาศ อาหารการกิน 2.หนังสือเดินทาง & วีซ่า : เก็บหนังสือเดินทางไว้กับตัว และถ่ายสำเนาอย่างน้อย 1 ชุด เพื่อเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และพำนักภายในระยะเวลาที่ได้รับวีซ่า 3.ประกันท่องเที่ยว : ควรทำประกันการเดินทางให้ครอบคลุมอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย เพื่อลดภาระทางการเงินกรณีเกิดเหตุ 4.ของหิ้ว : ไม่รับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่าไม่เป็นของที่ผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามของประเทศญี่ปุ่น 5.ติดต่อฉุกเฉิน : หมายเลขติดต่อหน่วยงานราชการไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว TEL : +81 (0) 90 4435 7812 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ TEL : +81 (0) 90 2585 3027 , +81 (0) 90 9572 1515 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา TEL : +81 (0) 90 1895 0987 สถานกงสุลกิตติมศักดิ ณ เมืองนาโกยา TEL : +81 (0) 5 2963 3451 6.ไม่ทำผิดกฎหมายญี่ปุ่น : – อยู่นานเกินกว่าทางการญี่ปุ่นอนุญาต ผู้ที่พำนักเกินกว่าที่ทางการญี่ปุ่นอนุญาต ถือว่าทำผิดกฎหมายเข้าเมืองญี่ปุ่น และจะไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้อย่างน้อย 2 ปี – ยาและสมุนไพรบางชนิด ไม่สามารถนำเข้าญี่ปุ่นได้ โดยยาและสมุนไพรไทยบางชนิดมีส่วนผสมที่ผิดกฎหมายญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบส่วนผสมและข้อห้ามก่อนนำเข้ามาใช้ที่ญี่ปุ่นทุกครั้ง – ทำงานผิดกฎหมาย การทำงานในญี่ปุ่นต้องมีวีซ่าทำงาน และสามารถทำงานเฉพาะในส่วนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น – ขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีใบอนุญาต ใบขับขี่สากลไทยใช้ขับขี่รถยนต์ในญี่ปุ่นได้เฉพาะผู้พำนักระยะสั้น เช่น ท่องเที่ยว เท่านั้น 7.แอปพลิเคชั่นที่สำคัญ : Thai Consular , Safety Tips , NHK , Yurekuri อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qgBLA4 Photo Credit by : TNNthailand Article Credit by : TNNthailand

“เที่ยวญี่ปุ่น” แบบไม่ต้องโชว์ผลตรวจโควิด-19 เริ่ม 7 ก.ย. ต้องเตรียมอะไรบ้าง “ญี่ปุ่น” ไฟเขียวยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศแผนต้อนรับนักท่องเที่ยว อนุญาตเที่ยวได้ไม่ต้องมีไกด์กับผู้ถือหนังสือเดินทางทุกประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ รัฐบาลของคิชิดะเริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศในจำนวนจำกัดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น การเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจทัวร์พร้อมมัคคุเทศก์ ด้าน เพจเฟซบุ๊กของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ” สำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565) สำหรับผู้เดินทางทุกคนที่มาจากประเทศ/ภูมิภาคที่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (ตระกูล B.1.1.539) เป็นสายพันธุ์เด่น หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด (ใบรับรองที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่าถูกต้อง และเป็นใบรับรองยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนสามครั้งแล้วตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบ 2 ของมาตรการ (28) บุคคลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิดเป็นลบที่ต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2565 เป็นต้นไป รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใบรับรองผลตรวจโควิด: https://www.mhlw.go.jp/content/000980075.pdf รายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติ: https://www.mofa.go.jp/ca/fna/page24e_000317.html รายละเอียดเกี่ยวกับใบรับรองการฉีดวัคซีนที่อนุมติให้ใช้ได้ ข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย: https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_ja/news_20220225-3.html เชิญดูรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวได้ที่นี่ https://bit.ly/3AZUh6b หมายเหตุ: ข่าวอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีการเปลี่ยนแปลง ทาง JNTO จะแจ้งให้ทราบต่อไป สำหรับการเตรียมตัวก่อนการเดินทางมาญี่ปุ่นนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้คำแนะนำคนไทยไว้ดังนี้ 1.ตรวจสอบข้อมูลที่เที่ยว : โดยศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางให้รอบคอบโดยเฉพาะการเดินทาง ภูมิอากาศ อาหารการกิน 2.หนังสือเดินทาง & วีซ่า : เก็บหนังสือเดินทางไว้กับตัว และถ่ายสำเนาอย่างน้อย 1 ชุด เพื่อเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และพำนักภายในระยะเวลาที่ได้รับวีซ่า 3.ประกันท่องเที่ยว : ควรทำประกันการเดินทางให้ครอบคลุมอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย เพื่อลดภาระทางการเงินกรณีเกิดเหตุ 4.ของหิ้ว : ไม่รับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่าไม่เป็นของที่ผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามของประเทศญี่ปุ่น 5.ติดต่อฉุกเฉิน : หมายเลขติดต่อหน่วยงานราชการไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว TEL : +81 (0) 90 4435 7812 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ TEL : +81 (0) 90 2585 3027 , +81 (0) 90 9572 1515 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา TEL : +81 (0) 90 1895 0987 สถานกงสุลกิตติมศักดิ ณ เมืองนาโกยา TEL : +81 (0) 5 2963 3451 6.ไม่ทำผิดกฎหมายญี่ปุ่น : – อยู่นานเกินกว่าทางการญี่ปุ่นอนุญาต ผู้ที่พำนักเกินกว่าที่ทางการญี่ปุ่นอนุญาต ถือว่าทำผิดกฎหมายเข้าเมืองญี่ปุ่น และจะไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้อย่างน้อย 2 ปี – ยาและสมุนไพรบางชนิด ไม่สามารถนำเข้าญี่ปุ่นได้ โดยยาและสมุนไพรไทยบางชนิดมีส่วนผสมที่ผิดกฎหมายญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบส่วนผสมและข้อห้ามก่อนนำเข้ามาใช้ที่ญี่ปุ่นทุกครั้ง – ทำงานผิดกฎหมาย การทำงานในญี่ปุ่นต้องมีวีซ่าทำงาน และสามารถทำงานเฉพาะในส่วนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น – ขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีใบอนุญาต ใบขับขี่สากลไทยใช้ขับขี่รถยนต์ในญี่ปุ่นได้เฉพาะผู้พำนักระยะสั้น เช่น ท่องเที่ยว เท่านั้น 7.แอปพลิเคชั่นที่สำคัญ : Thai Consular , Safety Tips , NHK , Yurekuri อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qgBLA4 Photo Credit by : TNNthailand Article Credit by : TNNthailand

แชร์ให้เพื่อน!

“เที่ยวญี่ปุ่น” แบบไม่ต้องโชว์ผลตรวจโควิด-19 เริ่ม 7 ก.ย. ต้องเตรียมอะไรบ้าง

“ญี่ปุ่น” ไฟเขียวยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศแผนต้อนรับนักท่องเที่ยว อนุญาตเที่ยวได้ไม่ต้องมีไกด์กับผู้ถือหนังสือเดินทางทุกประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศ 2 เท่า เป็น 5 หมื่นรายต่อวัน จากเดิม 2 หมื่นราย เริ่ม 7 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ รัฐบาลของคิชิดะเริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศในจำนวนจำกัดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น การเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจทัวร์พร้อมมัคคุเทศก์

ด้าน เพจเฟซบุ๊กของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การยกเว้นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ” สำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565)

สำหรับผู้เดินทางทุกคนที่มาจากประเทศ/ภูมิภาคที่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (ตระกูล B.1.1.539) เป็นสายพันธุ์เด่น หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด (ใบรับรองที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่าถูกต้อง

และเป็นใบรับรองยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนสามครั้งแล้วตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบ 2 ของมาตรการ (28) บุคคลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิดเป็นลบที่ต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใบรับรองผลตรวจโควิด:

https://www.mhlw.go.jp/content/000980075.pdf

รายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติ:

https://www.mofa.go.jp/ca/fna/page24e_000317.html

รายละเอียดเกี่ยวกับใบรับรองการฉีดวัคซีนที่อนุมติให้ใช้ได้ ข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย:

https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_ja/news_20220225-3.html

เชิญดูรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวได้ที่นี่

https://bit.ly/3AZUh6b

หมายเหตุ: ข่าวอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีการเปลี่ยนแปลง ทาง JNTO จะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับการเตรียมตัวก่อนการเดินทางมาญี่ปุ่นนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้คำแนะนำคนไทยไว้ดังนี้

1.ตรวจสอบข้อมูลที่เที่ยว : โดยศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางให้รอบคอบโดยเฉพาะการเดินทาง ภูมิอากาศ อาหารการกิน

2.หนังสือเดินทาง & วีซ่า : เก็บหนังสือเดินทางไว้กับตัว และถ่ายสำเนาอย่างน้อย 1 ชุด เพื่อเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และพำนักภายในระยะเวลาที่ได้รับวีซ่า

3.ประกันท่องเที่ยว : ควรทำประกันการเดินทางให้ครอบคลุมอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย เพื่อลดภาระทางการเงินกรณีเกิดเหตุ

4.ของหิ้ว : ไม่รับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่าไม่เป็นของที่ผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามของประเทศญี่ปุ่น

5.ติดต่อฉุกเฉิน : หมายเลขติดต่อหน่วยงานราชการไทย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว

TEL : +81 (0) 90 4435 7812

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ

TEL : +81 (0) 90 2585 3027 , +81 (0) 90 9572 1515

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา

TEL : +81 (0) 90 1895 0987

สถานกงสุลกิตติมศักดิ ณ เมืองนาโกยา

TEL : +81 (0) 5 2963 3451

6.ไม่ทำผิดกฎหมายญี่ปุ่น :

– อยู่นานเกินกว่าทางการญี่ปุ่นอนุญาต ผู้ที่พำนักเกินกว่าที่ทางการญี่ปุ่นอนุญาต ถือว่าทำผิดกฎหมายเข้าเมืองญี่ปุ่น และจะไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้อย่างน้อย 2 ปี

– ยาและสมุนไพรบางชนิด ไม่สามารถนำเข้าญี่ปุ่นได้ โดยยาและสมุนไพรไทยบางชนิดมีส่วนผสมที่ผิดกฎหมายญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบส่วนผสมและข้อห้ามก่อนนำเข้ามาใช้ที่ญี่ปุ่นทุกครั้ง

– ทำงานผิดกฎหมาย

การทำงานในญี่ปุ่นต้องมีวีซ่าทำงาน และสามารถทำงานเฉพาะในส่วนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

– ขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีใบอนุญาต

ใบขับขี่สากลไทยใช้ขับขี่รถยนต์ในญี่ปุ่นได้เฉพาะผู้พำนักระยะสั้น เช่น ท่องเที่ยว เท่านั้น

7.แอปพลิเคชั่นที่สำคัญ : Thai Consular , Safety Tips , NHK , Yurekuri

อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qgBLA4
Photo Credit by : TNNthailand
Article Credit by : TNNthailand

305589072_5138839972887038_7182325267454

อ่านต่อบน Facebook

Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์