#ChangTrixGet : คุ้มจริง หาซื้อได้ทุกช่องทาง❗ 📲 ซื้อ TRUE TRAVEL SIM #ลดเลยทันที 50 บาท 🔥 . 🏃‍♀ เที่ยวที่ไหนก็หายห่วง ! เล่นเน็ตสุดคุ้มทั่วโลก กับ TRUE TRAVEL SIM ✈ ช้อปง่าย สะดวกกว่าเดิม หาซื้อได้ทุกช่องทาง ที่ ทรูช็อปทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือ สั่งซื้อออนไลน์ ได้ที่ ทรูสโตร์ ส่งฟรีถึงบ้าน 💥 ซื้อเลยวันนี้ ลดเลยทันที 50 บาท 💥 . 🌍 TRUE TRAVEL SIM WORLD ลดเหลือเพียง 849.- ‼ 🌏 TRUE TRAVEL SIM ASIA ลดเหลือเพียง 349.- ‼ . 🚩 #โปรโมชั่น : 15 ธ.ค. 64 – 31 มี.ค. 65 . ✅✅ ทางลัดไปซื้อ ✅✅ . ▶ ทรูช็อปทุกสาขา ทั่วประเทศ . ▶ ทรูสโตร์ >> https://bit.ly/3dW4Yu1 . ▶ Shopee ◀ 📲 TRAVEL SIM ASIA >> https://s.changtrixget.com/3GYiMS1 📲 TRAVEL SIM WORLD >> https://s.changtrixget.com/3bNVss3 . ▶ Lazada ◀ 📲 TRAVEL SIM ASIA >> https://s.changtrixget.com/3EShhmD 📲 TRAVEL SIM WORLD >> https://s.changtrixget.com/3H4ahoO . _____________________________ #TRAVELSIM #TRUEMOVEH #ทราเวลซิม #TRAVELSIMASIA #TRAVELSIMWORLD #เดินทางอีกครั้ง #TRUETRAVELSIM #JAPAN #KOREA #SINGAPORE

#ChangTrixGet : คุ้มจริง หาซื้อได้ทุกช่องทาง❗ 📲 ซื้อ TRUE TRAVEL SIM #ลดเลยทันที 50 บาท 🔥 . 🏃‍♀ เที่ยวที่ไหนก็หายห่วง ! เล่นเน็ตสุดคุ้มทั่วโลก กับ TRUE TRAVEL SIM ✈ ช้อปง่าย สะดวกกว่าเดิม หาซื้อได้ทุกช่องทาง ที่ ทรูช็อปทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือ สั่งซื้อออนไลน์ ได้ที่ ทรูสโตร์ ส่งฟรีถึงบ้าน 💥 ซื้อเลยวันนี้ ลดเลยทันที 50 บาท 💥 . 🌍 TRUE TRAVEL SIM WORLD ลดเหลือเพียง 849.- ‼ 🌏 TRUE TRAVEL SIM ASIA ลดเหลือเพียง […]

🧧พรีออเดอร์เซ็ตผลไม้มงคลตรุษจีน 🎁🍊🍏🍎 ตรุษจีนปีนี้มอบผลไม้มงคลเป็นของขวัญเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ 🍊ส้มสีทอง สื่อถึงความมั่งมีศรีสุข มีโชคมีลาภ 🍎แอปเปิ้ล สื่อถึงสุขภาพดีสมบูรณ์แข็งแรง ⛩เครื่องรางนำโชค การงาน การเงิน และสุขภาพ (Limited 10 เซ็ต ‼️พร้อมลุ้นอั่งเปานำโชค🧧💰) ⏰พรีออเดอร์วันนี่ – 26 ม.ค. 65 ส่งสินค้า 27,28 ม.ค. 65 🚗กทม. ส่ง Grab Express ตจว. ส่ง Inter Express แช่เย็น 👉สั่งซื้อสินค้าคลิกที่ภาพ หรือ https://shop.line.me/@s026128500 👉 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-676-3200 / 065-149-9424 #ผลไม้มงคล #ผลไม้ตรุษจีน #ผลไม้ของขวัญ #ส้มตรานกแก้ว #Envy #แอปเปิ้ลญี่ปุ่น #เครื่องรางนำโชค #iShoppingคุณกดสั่งเร้าพร้อมส่ง #Siamorchardgroup #iShoppingPhotos from SiamOrchardGroup’s post

🧧พรีออเดอร์เซ็ตผลไม้มงคลตรุษจีน 🎁🍊🍏🍎 ตรุษจีนปีนี้มอบผลไม้มงคลเป็นของขวัญเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ 🍊ส้มสีทอง สื่อถึงความมั่งมีศรีสุข มีโชคมีลาภ 🍎แอปเปิ้ล สื่อถึงสุขภาพดีสมบูรณ์แข็งแรง ⛩เครื่องรางนำโชค การงาน การเงิน และสุขภาพ (Limited 10 เซ็ต ‼️พร้อมลุ้นอั่งเปานำโชค🧧💰) ⏰พรีออเดอร์วันนี่ – 26 ม.ค. 65 ส่งสินค้า 27,28 ม.ค. 65 🚗กทม. ส่ง Grab Express ตจว. ส่ง Inter Express แช่เย็น 👉สั่งซื้อสินค้าคลิกที่ภาพ หรือ https://shop.line.me/@s026128500 👉 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-676-3200 / 065-149-9424 #ผลไม้มงคล #ผลไม้ตรุษจีน #ผลไม้ของขวัญ #ส้มตรานกแก้ว #Envy #แอปเปิ้ลญี่ปุ่น #เครื่องรางนำโชค #iShoppingคุณกดสั่งเร้าพร้อมส่ง #Siamorchardgroup #iShopping อ่านต่อบน Facebook

#ChangTrixget : สายแคมป์จงมามุง! .
 เห็นแล้ว ต้องร้องว้าว!! Coleman ปีนี้ เปิดตัว ชุด set “SOLO CAMP START PACKAGE” ที่จัดให้จัดหนักๆ เอาใจ สาย solo ที่บอกเลยว่ามาแรงในญี่ปุ่นสุดๆ ทั้งชุดรวมอยู่ใน Carry Bag ใบเดียว อันนี้ดีย์! แถมเต็นท์ เป็น instant กางเก็บรวดเร็ว ถือเป็น Start Package ที่ ครบ ครบ จบ ที่เดียวเลย .
 📍 ทั้งชุด มี 11 รายการ – น้ําหนัก: ประมาณ 16 กก. – ขนาดจัดเก็บ ประมาณ 40 × 30 × 70 ซม.
. – วัสดุด้านนอก 75D Polyester Tuffer (UVPRO, PU Waterproof, Seam Seal) – ด้านใน 68D Polyester Tuffer Floor / 75D Polyester Tuffer (PU Waterproof, Seam Seal) – ทนต่อแรงดันน้ำประมาณ 1,500mm – เหมาะสำหรับ 1 คน 
. #ทางไปช้อป >> https://bit.ly/3tAOikY . ———————————- ซื้อประกันออนไลน์ได้เองง่ายๆ ทั้งแผนมะเร็งค่าเบี้ยคงที่ หรืออุบัติเหตุ พลัส ทำฟัน (ขูด เคลือบ อุด ถอน) คลิ๊ก>> https://bit.ly/3tpOUqk

#ChangTrixget : สายแคมป์จงมามุง! .
 เห็นแล้ว ต้องร้องว้าว!! Coleman ปีนี้ เปิดตัว ชุด set “SOLO CAMP START PACKAGE” ที่จัดให้จัดหนักๆ เอาใจ สาย solo ที่บอกเลยว่ามาแรงในญี่ปุ่นสุดๆ ทั้งชุดรวมอยู่ใน Carry Bag ใบเดียว อันนี้ดีย์! แถมเต็นท์ เป็น instant กางเก็บรวดเร็ว ถือเป็น Start Package ที่ ครบ ครบ จบ ที่เดียวเลย .
 📍 ทั้งชุด มี 11 รายการ – น้ําหนัก: ประมาณ 16 กก. – ขนาดจัดเก็บ ประมาณ 40 × 30 × […]

เตือนสึนามิล่าสุด สถานทูตญี่ปุ่น ออกประกาศลดระดับเตือนภัยเป็นเฝ้าระวัง เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 65 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่คำเตือนจากสถานการณ์สึนามิ โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันนี้ (16 มกราคม 2565) เวลา 00.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น (เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณหมู่เกาะอามามิ-โอชิมะ และหมู่เกาะโทคาระ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโกชิมะซึ่งห่างจากกรุงโตเกียว 1,293 กิโลเมตร และต่อมาในวันเดียวกัน (16 มกราคม 2565) เวลา 02.55 น. กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณจังหวัดอีวาเทะทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียว ประมาณ 570 กิโลเมตร ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเลในประเทศตองกาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอพยพออกจากบริเวณใกล้ชายฝั่งและริมน้ำย้ายไปยังพื้นที่สูงหรือพื้นที่หลบภัย นั้น เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ลดระดับประกาศเตือนคลื่นสึนามิเป็นขอให้เฝ้าระวังในบริเวณหมู่เกาะอามามิ-โอชิมะ และหมู่เกาะโทคาระ รวมทั้งพื้นที่บริเวณชายฝั่งของญี่ปุ่นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก และคงไว้ซึ่งการประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณจังหวัดอีวาเทะ และต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.20 น. ของวันเดียวกัน ได้ลดระดับประกาศเตือนคลื่นสึนามิเป็นขอให้เฝ้าระวังในบริเวณจังหวัดอีวาเทะ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นยังคงขอให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณชายฝั่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เหตุการณ์สึนามิครั้งนี้ไม่ทำให้พื้นที่อื่นรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว และยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเนื่องมาจากคลื่นสึนามิดังกล่าว อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ดังกล่าวโปรดดูแลรักษาตัวและเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยติดตามข่าวสารของทางการญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องในกรณีที่อาจเกิดคลื่นสูงและความเป็นไปได้ในการเกิดแผ่นดินไหวตามมา (aftershocks) กรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ HOTLINE 090-4435-7812 อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3qFNUQp Photo Credit by : Komchadluek Article Credit by : Komchadluek

เตือนสึนามิล่าสุด สถานทูตญี่ปุ่น ออกประกาศลดระดับเตือนภัยเป็นเฝ้าระวัง เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 65 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่คำเตือนจากสถานการณ์สึนามิ โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันนี้ (16 มกราคม 2565) เวลา 00.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น (เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณหมู่เกาะอามามิ-โอชิมะ และหมู่เกาะโทคาระ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโกชิมะซึ่งห่างจากกรุงโตเกียว 1,293 กิโลเมตร และต่อมาในวันเดียวกัน (16 มกราคม 2565) เวลา 02.55 น. กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิบริเวณจังหวัดอีวาเทะทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียว ประมาณ 570 กิโลเมตร ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเลในประเทศตองกาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอพยพออกจากบริเวณใกล้ชายฝั่งและริมน้ำย้ายไปยังพื้นที่สูงหรือพื้นที่หลบภัย นั้น เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ลดระดับประกาศเตือนคลื่นสึนามิเป็นขอให้เฝ้าระวังในบริเวณหมู่เกาะอามามิ-โอชิมะ และหมู่เกาะโทคาระ รวมทั้งพื้นที่บริเวณชายฝั่งของญี่ปุ่นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก […]

สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งเกาะซาโดะ จากท่าเรือในเมืองนีงาตะ (Niigata) สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง “เกาะซาโดะ (Sado Island)” ที่ครบครันไปด้วยที่เที่ยวมากมาย 🛶 ล่องเรือทาไรบุเนะ (Tarai Bune) เรือไม้ทรงกลมขนาดเล็ก โดยมีฝีพายหญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองพร้อมสวมหมวกใบใหญ่ พาล่องเรือชมวิวอันงดงาม หรือหากอยากลองพายเรือด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน 🚙 อีกหนึ่งวิธีเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะที่แสนสะดวกก็คือ “การเช่ารถขับ” ซึ่งมีให้บริการรถเช่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ สามารถขับรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวแบบ 1 วัน รถบัสประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และจักรยานให้เช่า ก็มีครบ 📷 จุดท่องเที่ยวแนะนำ อาทิ “โอโนะกาเมะ (Onogame)” ที่ได้รับเลือกจากมิชลินกรีนไกด์แจแปน การันตีความงามของทิวทัศน์ถึง 2 ดาว เป็นเนินหินที่ยื่นไปในทะเล แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันตระการตา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง (หรือ Tobishima kanzo) บานสะพรั่งงดงามกว่า 5 แสนต้น 📷 และสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง “หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)” เป็นแหล่งที่พักอาศัยของพ่อค้าและชาวบ้านที่มีอาชีพต่อเรือ ในสมัยที่เหมืองแร่ทองคำบนเกาะรุ่งเรือง บ้านเรือนกว่า 100 หลังในหมู่บ้านจึงสร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใช้ในการต่อเรือ ได้รับการยกย่องให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของชาติ โดยมีบ้าน 3 หลังที่เปิดให้เข้าชมด้านในได้ 🍱 เกาะซาโดะยังมีเมนูอาหารทะเลน่าลิ้มลอง ได้แก่ ซาโดะเทนเนนบุริ คัตสึด้ง (Sado Tennenburi-katsudon) ที่นำ “ปลาบุริ” วัตถุดิบขึ้นชื่อ มาชุบแป้งทอดแล้ววางบนข้าว ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ และยังมีเมนูอื่นๆ จากกุ้ง ปลาหมึก ปูหิมะ เป็นต้น ⛺️ แนะนำให้พักค้างแรมสักคืนที่เกาะซาโดะ โดยเฉพาะที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยบางแห่งเป็นบ้านอายุกว่า 100 ปี และมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้ร่วมทำอย่าง ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว เก็บลูกพลับ ทอผ้า ทำอาหาร ร่วมงานเทศกาลท้องถิ่น ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล 🚆 การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata Station) ซึ่งมีรถไฟชินคังเซ็นวิ่งผ่าน สามารถนั่งรถบัส ประมาณ 30 นาที ไปลงที่ป้าย Niigata Port จากนั้นโดยสารเรือไปยังท่าเรือ Ryotsu Port บนเกาะซาโดะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที อย่าลืมแท็ก #visitjapanth หากอนุญาตให้แชร์ภาพเที่ยวญี่ปุ่นของคุณในอินสตาแกรมของJNTO เครดิต​ข้อมูล​:JNTO

สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งเกาะซาโดะ จากท่าเรือในเมืองนีงาตะ (Niigata) สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง “เกาะซาโดะ (Sado Island)” ที่ครบครันไปด้วยที่เที่ยวมากมาย 🛶 ล่องเรือทาไรบุเนะ (Tarai Bune) เรือไม้ทรงกลมขนาดเล็ก โดยมีฝีพายหญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองพร้อมสวมหมวกใบใหญ่ พาล่องเรือชมวิวอันงดงาม หรือหากอยากลองพายเรือด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน 🚙 อีกหนึ่งวิธีเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะที่แสนสะดวกก็คือ “การเช่ารถขับ” ซึ่งมีให้บริการรถเช่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ สามารถขับรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวแบบ 1 วัน รถบัสประจำทาง รวมถึงรถแท็กซี่ และจักรยานให้เช่า ก็มีครบ 📷 จุดท่องเที่ยวแนะนำ อาทิ “โอโนะกาเมะ (Onogame)” ที่ได้รับเลือกจากมิชลินกรีนไกด์แจแปน การันตีความงามของทิวทัศน์ถึง 2 ดาว เป็นเนินหินที่ยื่นไปในทะเล แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันตระการตา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกลิลลี่สีเหลือง (หรือ Tobishima kanzo) บานสะพรั่งงดงามกว่า 5 แสนต้น 📷 และสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง “หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)” เป็นแหล่งที่พักอาศัยของพ่อค้าและชาวบ้านที่มีอาชีพต่อเรือ ในสมัยที่เหมืองแร่ทองคำบนเกาะรุ่งเรือง บ้านเรือนกว่า […]

“ค่าเหยียบแผ่นดิน” เอาไปทำอะไร นทท.ทำไมต้องจ่าย ประเทศอื่นทำกันหรือไม่? “ค่าเหยียบแผ่นดิน” เอาไปทำอะไร เรื่องนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เงิน “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ที่จะเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่ม 1 เมษายน 2565 นี้นั้น เงินก้อนนี้จะนำไปใส่ในกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2562 ฉบับปรับปรุงและเมื่อได้เก็บมาแล้ว ทางสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะรับผิดชอบดูแลนำไปพัฒนาภารกิจเร่งด่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป การนำเงินไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เช่น สร้างทางขึ้นลงสำหรับคนพิการในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และ สร้างห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวให้เหมือนห้องน้ำของประเทศญี่ปุ่นที่สะอาดและดีมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติจ่าย “ค่าเหยียบแผ่นดิน” จะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องนี้ว่า ค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท เงินส่วนนี้จะมีการทำประกันให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต นักท่องเที่ยวก็จะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือค่ารักษาพยาบาลที่จะได้รับสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาท มีที่ไหนเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดินแบบนี้หรือไม่ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ปัจจุบันหลายๆประเทศได้มีการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินเกือบหมดแล้ว ทั้งประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น หรือมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่จะรวมอยู่ในราคาตั๋วเครื่องบินหรือราคาห้องพัก ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม กำลังเจรจากับสายการบินเกือบครบทุกสายการบินแล้ว คาดว่าเดือน มี.ค.2565 นี้จะเสร็จสิ้น ขณะที่การเดินทางเข้าประเทศไทยทางบกจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินก่อนเดินทางเข้ามาและให้แสดงหลักฐานก่อนเข้าประเทศว่าได้จ่ายเงินแล้ว อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3FlHMkb Photo Credit by : Bangkokbiznews Article Credit by : Bangkokbiznews

“ค่าเหยียบแผ่นดิน” เอาไปทำอะไร นทท.ทำไมต้องจ่าย ประเทศอื่นทำกันหรือไม่? “ค่าเหยียบแผ่นดิน” เอาไปทำอะไร เรื่องนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เงิน “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ที่จะเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่ม 1 เมษายน 2565 นี้นั้น เงินก้อนนี้จะนำไปใส่ในกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2562 ฉบับปรับปรุงและเมื่อได้เก็บมาแล้ว ทางสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะรับผิดชอบดูแลนำไปพัฒนาภารกิจเร่งด่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป การนำเงินไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เช่น สร้างทางขึ้นลงสำหรับคนพิการในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และ สร้างห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวให้เหมือนห้องน้ำของประเทศญี่ปุ่นที่สะอาดและดีมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติจ่าย “ค่าเหยียบแผ่นดิน” จะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องนี้ว่า ค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท เงินส่วนนี้จะมีการทำประกันให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต นักท่องเที่ยวก็จะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือค่ารักษาพยาบาลที่จะได้รับสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาท มีที่ไหนเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดินแบบนี้หรือไม่ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ปัจจุบันหลายๆประเทศได้มีการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินเกือบหมดแล้ว ทั้งประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น หรือมาเลเซีย […]

ชวนเดินเล่น DONKI สาขา MBK ของหวานและขนมมากกว่า สาขาอื่นๆในไทย หลังจากโตคิวห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่น ปิดฉาก 35 ปี โบกมือลาประเทศไทย ทางฝั่งของ MBK เจ้าของสถานที่ก็เดินหน้าร่วมกับ DONKI ร้านค้าด้านสินค้าของใช้และอาหารจากประเทศญี่ปุ่นมาเปิดแทนแล้ว ไฮไลต์สำคัญของ DONKI สาขา MBK 1. ดอง ดอง ดองกิ สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ถือเป็นสาขาที่ 4 ของดองกิ ประเทศไทย และยังเป็นแฟลกชิพสโตร์ โดยมีสินค้านำเข้าหรือแบรนด์สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นกว่า 12,000 ชนิด ที่ชูคอนเซ็ปท์ Japan Brand Specialty Store 2. ภายในสาขาแห่งนี้ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 2,146.02 ตารางเมตร นับว่าเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ขายมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นการกลับมาเปิดสาขาใหม่ย่านใจกลางกรุงเทพฯ หลังจากก่อนหน้านี้ ดองกิ ขยายสาขาไปที่ซีคอน ศรีนครินทร์ และสาขาลำดับต่อไปจะเปิดที่ซีคอน บางแค ราวกลางปี 2566 3.โซนที่สาขาอื่นไม่มีแต่ที่นี่มีก็คือ โซนของขวัญและของที่ระลึก ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้า ที่มีทั้งของขวัญและผลไม้นานาชนิด แล้วให้พนักงานห่อเป็นของขวัญด้วยดีไซน์ที่อิงกับความเป็นญี่ปุ่น 4. คุณโยซูเกะ ชิมานุ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า ในสาขานี้จะมีสินค้าประเภทของหวานและขนมมากกว่าสาขาอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3I1Cpsj Photo Credit by : Springnews Article Credit by : Springnews

ชวนเดินเล่น DONKI สาขา MBK ของหวานและขนมมากกว่า สาขาอื่นๆในไทย หลังจากโตคิวห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่น ปิดฉาก 35 ปี โบกมือลาประเทศไทย ทางฝั่งของ MBK เจ้าของสถานที่ก็เดินหน้าร่วมกับ DONKI ร้านค้าด้านสินค้าของใช้และอาหารจากประเทศญี่ปุ่นมาเปิดแทนแล้ว ไฮไลต์สำคัญของ DONKI สาขา MBK 1. ดอง ดอง ดองกิ สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ถือเป็นสาขาที่ 4 ของดองกิ ประเทศไทย และยังเป็นแฟลกชิพสโตร์ โดยมีสินค้านำเข้าหรือแบรนด์สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นกว่า 12,000 ชนิด ที่ชูคอนเซ็ปท์ Japan Brand Specialty Store 2. ภายในสาขาแห่งนี้ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 2,146.02 ตารางเมตร นับว่าเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ขายมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นการกลับมาเปิดสาขาใหม่ย่านใจกลางกรุงเทพฯ หลังจากก่อนหน้านี้ ดองกิ ขยายสาขาไปที่ซีคอน ศรีนครินทร์ และสาขาลำดับต่อไปจะเปิดที่ซีคอน บางแค ราวกลางปี […]

เปิดภาพโตเกียวต้อนรับหิมะแรกของปี อุตุฯเตือนหิมะตกหนักเพิ่ม วันนี้ ( 7 ม.ค. 65 )พื้นที่กรุงโตเกียวมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างหนักและถือเป็นหิมะแรกของปี 2022 หลังจากความกดอากาศต่ำที่แผ่ลงจากประเทศจีนเข้าปกคลุมพื้นที่ ซึ่งชาวเมืองหลายคนบอกว่าไม่พบเห็นหิมะตกในกรุงโตเกียวมาพักใหญ่แล้ว จึงถือเป็นเรื่องดีรับปีใหม่ แม้การเดินทางจะติดขัดบ้างเล็กน้อย ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนพายุหิมะตกหนักในพื้นที่กรุงโตเกียว และอีก 3 จังหวัดโดยรอบ คือ คานางาวะ ไซตามะ และชิบะ ซึ่งอาจมีหิมะตกหนาถึง 5 เซนติเมตร และอุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบ 0.4 องศาเซลเซียส และจะลดต่ำลงอีกในเวลากลางคืน พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระวังอันตรายจากสภาพถนนลื่นเพราะหิมะปกคลุม ก่อนหน้านี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยากำลังเตือนว่า อาจเกิดหิมะตกมากขึ้นในพื้นที่ภูเขาตามแนวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮกุและทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ โดย หิมะจะตกต่อไปในทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโตและจังหวัดนางาโนะเป็นส่วนใหญ่ พร้อมเตือนผู้คนเตรียมรับมือการสัญจรที่อาจหยุดชะงักเนื่องจากกองหิมะและไฟดับ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีหิมะทับถมกันบนสายไฟ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/34iYlQS Photo Credit by : TNNthailand Article Credit by : TNNthailand

เปิดภาพโตเกียวต้อนรับหิมะแรกของปี อุตุฯเตือนหิมะตกหนักเพิ่ม วันนี้ ( 7 ม.ค. 65 )พื้นที่กรุงโตเกียวมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างหนักและถือเป็นหิมะแรกของปี 2022 หลังจากความกดอากาศต่ำที่แผ่ลงจากประเทศจีนเข้าปกคลุมพื้นที่ ซึ่งชาวเมืองหลายคนบอกว่าไม่พบเห็นหิมะตกในกรุงโตเกียวมาพักใหญ่แล้ว จึงถือเป็นเรื่องดีรับปีใหม่ แม้การเดินทางจะติดขัดบ้างเล็กน้อย ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนพายุหิมะตกหนักในพื้นที่กรุงโตเกียว และอีก 3 จังหวัดโดยรอบ คือ คานางาวะ ไซตามะ และชิบะ ซึ่งอาจมีหิมะตกหนาถึง 5 เซนติเมตร และอุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบ 0.4 องศาเซลเซียส และจะลดต่ำลงอีกในเวลากลางคืน พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระวังอันตรายจากสภาพถนนลื่นเพราะหิมะปกคลุม ก่อนหน้านี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยากำลังเตือนว่า อาจเกิดหิมะตกมากขึ้นในพื้นที่ภูเขาตามแนวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮกุและทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ โดย หิมะจะตกต่อไปในทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโตและจังหวัดนางาโนะเป็นส่วนใหญ่ พร้อมเตือนผู้คนเตรียมรับมือการสัญจรที่อาจหยุดชะงักเนื่องจากกองหิมะและไฟดับ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีหิมะทับถมกันบนสายไฟ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/34iYlQS Photo Credit by : TNNthailand Article Credit by : TNNthailand อ่านต่อบน Facebook

New Year, New You รู้เรื่องกองทุนรวมใน 6 Stones (Episode 4) ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แอดมินขอรวบรวมความรู้ทั้งปีมาไว้ที่ 6 Infinity Stones ท่านใดเก็บอัญมณีครบทั้ง 6 เม็ดขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ^^ ========================== พอร์ตการลงทุนจะโตเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับแก้ว 3 ประการคือ 1. เงินลงทุน 2. ผลตอบแทน 3. ระยะเวลา ท่านได้เรียนรู้เรื่องระยะเวลาและเงินทุนไปแล้ว ตอนนี้จะเป็นแก้วประการสดท้ายคือผลตอบแทนครับกับ Power Stone “High risk, High return, High loss” ก่อนอื่นขอให้รู้จักความแตกต่างของ 3 สิ่งนี้ก่อน การพนัน เช่นการซื้อหวย ถ้าถูกจะได้รางวัลแต่ถ้าไม่ถูกจะสูญเงินต้นไปเลยเช่น การฝากเงิน เช่นบัญชีออมทรัพย์ เงินต้นจะเท่าเดิม เพิ่มเติมคือได้ดอกเบี้ย การลงทุน(Investment) เงินต้นอาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลงทุนไปได้กำไรหรือขาดทุน เงินออมที่เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน ฉุกเฉินแปลว่าสภาพคล่องต้องสูงคือถอนออกมาใช้ได้ทุกวัน แนะนำให้เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัลดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปีขึ้นไป(ตามโพยในรูป) จากซีรีส์หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก(Rich Dad Poor Dad)” จำแนกรายได้เป็น 4 ประเภทคือ ESBI ดังนี้ครับ กลุ่ม Active income คือใช้แรงทำเงิน ได้แก่ E: Employee ลูกจ้าง S: Self employee กิจการส่วนตัว freelance กลุ่ม Passive income คือมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้โดยไม่ต้องออกแรงทำงาน ได้แก่ B: Business owner เจ้าของธุรกิจ เจ้าของลิขสิทธิ์ I: Investor นักลงทุน การจะเป็นเจ้าของธุรกิจโดยตรงต้องมีเงินทุนเยอะ ครั้นจะซื้อหุ้นเองเป็นตัวๆ ไปจะต้องใช้เงินรวมถึงเวลาศึกษาไม่น้อยเช่นกัน ถ้าหุ้นตัวนั้นเจ๊งเราก็เจ๊งไปด้วย มนุษย์เงินเดือนตัวน้อยๆ อย่างเราจึงเหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวม เพราะมีข้อดีคือใช้เงินลงทุนน้อยบาทเดียวก็ซื้อได้ ที่สำคัญซื้อกองเดียวแต่ได้ลงทุนในหุ้นหลักสิบถึงพันตัว ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีคือถ้าหุ้นตัวหนึ่งขึ้นอีกตัวลงเฉลี่ยกันไปนั่นเอง กองทุนรวม(mutual fund) เป็นการรวบรวมเงินลงทุนจากคนตัวเล็กหลายๆ คนจนเป็นเงินก้อนใหญ่แล้วนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ มีความเสี่ยงตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึงระดับ 8 (ตามรูป) โดยกองทุนหุ้น(equity fund) จัดอยู่ในความเสี่ยงระดับ 6-7 และสินทรัพย์ทางเลือกอยู่ในความเสี่ยงระดับ 8 หัวใจของการลงทุนในกองทุนรวมคือการสะสม “หน่วยลงทุน” ครับ ดังนั้นนักลงทุนจึงหวังจะได้จำนวนหน่วยมากที่สุดด้วยจำนวนเงินน้อยที่สุด!!! ตอนสิ้นสุดของวันทางกองทุนรวมจะคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนตามราคาตลาด ค่าใช้จ่ายรวม(Total expense ratio: TER) ที่แจ้งเป็น % ต่อปีนั้นทางกองทุนจะเอาจำนวนวันของปีมาหารเพื่อคิดเป็นค่าธรรมเนียมของ 1 วันแล้วนำไปหักออกจากมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนได้ออกมาเป็น “มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ” หรือ “Net Asset Value(NAV)” เมื่อนำ NAV หารด้วยจำนวนหน่วยของกองทุนจะออกมาเป็น “มูลค่าต่อหน่วยลงทุน” นั่นเอง ซึ่งกองทุนจะแจ้งราคานี้ใน 1-2 วันทำการถัดไป ดังนั้นเวลาซื้อกองทุนราคาต่อหน่วยที่ท่านเห็นคือราคาของเมื่อวันก่อน เราซื้อวันนี้จะได้ราคาของวันนี้ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่(ไม่ real time เหมือนการซื้อหุ้นเป็นรายตัว) กองทุนรวมเป็นการสะสมหน่วยลงทุนและสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือต้นทุนราคาต่อหน่วย(NAV) ที่เราได้มา ซึ่งมีสูตรคำนวณดังนี้ NAV ที่ได้ = NAV + (NAV x ค่าธรรมเนียมขาเข้า) กรณีเราซื้อกองทุนที่ไม่มีค่าธรรมเนียมขาเข้า วันที่ซื้อ NAV 12 บาท NAV ที่ได้ = 12 + (12 x 0) = 12 บาท เท่ากับ NAV ของวันที่ซื้อคือเท่าทุนนั่นเอง ซื้อวันไหนก็ใช้ NAV วันนั้น แต่หน่วยลงทุนจะเข้ามายังพอร์ตในอีก 2-3 วันทำการให้หลังแล้วแต่กองทุนครับ กรณีเราซื้อกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมขาเข้า 1% วันที่ซื้อ NAV 12 บาท NAV ที่ได้ = 12 + (12 x 1%) = 12 + 0.12 = 12.12 บาทซึ่งสูงกว่า NAV ของวันที่ซื้อ ดังนั้นวันแรกที่ซื้อมูลค่าจึงติดลบตามค่าธรรมเนียมขาเข้านั่นเอง เมื่อถือหน่วยลงทุนต่อไปเรื่อยๆ จน NAV ของกองทุนสูงขึ้นเกิน 12.12 บาท จากติดลบจะกลายเป็นบวกครับ พูดถึงตอนซื้อแล้วขอพูดถึงตอนขายต่อเลยแล้วกัน เวลาขายจะเป็นสูตรดังนี้ NAV ที่ขาย = NAV – (NAV x ค่าธรรมเนียมขาออก) กรณีเราขายกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมขาออก 0.5% วันที่ขาย NAV 14 บาท NAV ที่ขาย = 14 – (14 x 0.5%) = 14 – 0.07 = 13.93 บาท กรณีขาย 100 หน่วยจะได้เงิน 100 x 13.93 = 1,393 บาท (ถ้ากองทุนไม่มีค่าธรรมเนียมขาออกจะได้เต็มๆ 100 x 14 = 1,400 บาทนั่นเอง) กองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงินในธนาคารที่ถอนปุ๊บได้เงินปั๊บ เงินที่ขายได้จะเข้าบัญชีวันที่ T + ตัวเลข แล้วแต่กองทุนนั้นกำหนดเช่น กองทุนกำหนดไว้ T+4 หมายความว่าขายวันนี้(ได้ NAV วันนี้) ส่วนเงินจะเข้าบัญชีในอีก 4 วันทำการ(ไม่รวมวันหยุด) ข้อควรรู้!!! NAV วันที่ทำรายการไม่มีใครรู้ล่วงหน้าเพราะต้องรอสิ้นสุดวันทางกองทุนจึงจะสรุป NAV ของวันนั้น(NAV ที่เราเห็นเป็น NAV ของวันก่อนหน้าครับ) กองทุนรวมตราสารทุนแต่ละกองถือหุ้น 30-50 ตัว เราคาดว่า NAV วันนี้จะลงแต่มันอาจจะขึ้นก็ได้ เราคาดว่า NAV วันนี้จะขึ้นแต่มันอาจจะลงก็ได้ ============================= กองทุนมีมากมาย เพื่อไม่ให้งงแนะนำจำแนกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้ จำแนกตามพื้นที่ – ตลาดพัฒนาแล้ว(DM) 23 ประเทศได้แก่ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เป็นต้น ค่อนข้างมั่นคง – ตลาดเกิดใหม่(EM) 27 ประเทศได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ไทย เป็นต้น ค่อนข้างผันผวน – ตลาดชายขอบ(FM) ได้แก่ เวียดนาม เป็นต้น ผันผวนมากกก – ทั่วโลก(global) ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนทั่วโลกไม่จำกัดพื้นที่ จำแนกตามลักษณะสินทรัพย์ – กลุ่ม growth ได้แก่ sector เทคโนโลยี เป็นต้น – กลุ่ม cyclical(หรือ value) ได้แก่ sector financial, consumer discretionary, material, industrial เป็นต้น – กลุ่ม defensive ได้แก่ sector health care, infrastructure, consumer staples เป็นต้น – กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ – กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน เป็นต้น – Thematic fund ได้แก่ กองทุนธีมนวัตกรรม, ธีมพลังงานสะอาด, ธีมฟินเทค เป็นต้น จำแนกตามนโยบายการลงทุน -กองทุนหุ้นแบบ Active คือผู้จัดการกองทุนเลือกซื้อหุ้นเองว่าจะซื้อตัวไหน/สัดส่วนเท่าไหร่ ส่วน-กองทุนหุ้นแบบ Passive คือดัชนีมีหุ้นกี่ตัว/สัดส่วนเท่าไหร่ กองทุนก็ซื้อหุ้นล้อไปตามนั้น นั่นคือ Active fund ขึ้นอยู่กับ “ฝีมือของผู้จัดการกองทุน” เปลี่ยนผู้จัดการผลงานก็เปลี่ยนได้ กองทุนในไทยเปลี่ยนกองแม่ผลงานก็เปลี่ยนได้ จำแนกตามสิทธิพิเศษ – กองทุนเปิดทั่วไป ซื้อขายได้ทุกวันทำการ – กองทุนลดหย่อนภาษี SSF เงื่อนไขหลักคือถือยาว 10 ปี – กองทุนลดหย่อนภาษี RMF เงื่อนไขหลักคือถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี จำแนกตามคลาส – กองทุนรวม class A คือสะสมมูลค่า(Accumulation) หมายความว่าถ้าผู้ลงทุนต้องการรับผลตอบแทนจะต้องทำรายการขายหน่วยลงทุนด้วยตัวเอง กำไรจากส่วนต่างราคา(capital gain) ไม่ต้องเสียตามภาษีเรียกว่าได้รับเต็ม 100% นั่นเอง -กองทุนรวม class E เหมือน class A แต่ทำรายการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ข้อดีคือค่าธรรมเนียมต่ำมากกก -กองทุนรวม class D คืออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนด้วยการจ่ายปันผล(Dividend) เป็นตัวเงินอัตโนมัติ เช่นถ้ากองทุนประกาศจ่ายปันผล 1 บาทต่อหน่วย ตัวอย่างเรามีอยู่ 10 หน่วยจะเป็น 1 บาท x 10 หน่วย = 10 บาท แต่เงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ตามระเบียบ นั่นคือผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลจริงเพียง 9 บาทนั่นเอง โดยยังคงมีหน่วย 10 หน่วยเท่าเดิม ส่วนกองทุน NAV จะลดลงจาก 11 เหลือ 10 บาทตามสัดส่วนเงินที่ปันผลออกไปครับ -กองทุนรวม class R หรือกองทุนรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ(Auto Redemption) กล่าวคือแทนที่จะจ่ายปันผลเป็นเงินกองทุนประเภทนี้จะทำการปันหน่วยแทน ตัวอย่างกองทุนประกาศขายคืนหน่วยอัตโนมัติจำนวน 0.9090 หน่วย x NAV 11 บาท นักลงทุนจะได้รับเงินเต็มๆ 10 บาท(ไม่โดนหักภาษีเหมือน class D ) โดย NAV ของกองทุนจะยังคงเดิมที่ 11 บาท แต่หน่วยของเราจะลดลงจาก 10 หน่วยเหลือ 9.091 หน่วยนั่นเอง จำแนกตามการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน(Currency Hedge) กองทุนรวมไทยที่นำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ(Foreign Investment Fund: FIF) มีรูปแบบย่อยดังนี้ -Feeder fund คือ FIF ที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวเลย โดยกองทุนต่างประเทศที่บริหารเงินนั้นจะเรียกกองทุนแม่หรือ Master fund แต่ละกองทุนจะถือหุ้นหลายสิบตัวเพื่อกระจายความเสี่ยง ในหนังสือชี้ชวนจะแจ้งไว้ว่ากองทุนแม่นำเงินไปลงทุนในหุ้นใดบ้างและสัดส่วนกี่ % เช่น ลงทุนในหุ้น Tesla 5%, Amazon 4%, Apple 4% เป็นต้น -Fund of funds คือ FIF ที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศมากกว่า 1 กองนั่นเอง เนื่องจาก FIF ซื้อขายด้วยเงินสกุลต่างประเทศดังนั้นตอนซื้อต้องแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลนั้นๆ ก่อน ตอนขายจึงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินด้วยเช่น -ตอนขายหน่วยถ้าเงินสกุลนั้นอ่อน(หรือเงินบาทแข็ง) เวลาแลกกลับมาเป็นเงินบาทเราอาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ -กลับกันตอนขายหน่วยถ้าเงินสกุลนั้นแข็ง(หรือเงินบาทอ่อน) เวลาแลกกลับมาเป็นเงินบาทเราอาจจะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน FIF บางกองจึงมีการทำประกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เราเห็นตัวอักษร H ในชื่อกองทุนนั่นเองโดยแบ่งการ Hedge เป็น 3 แบบคือ – ป้องกันความเสี่ยงเต็มที่ – ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน จะป้องกัน 70% 80% 90% ก็ว่ากันไป – ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน นักลงทุนที่มองว่าแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าจึงลงทุนในกองที่ไม่ H เพื่อหวังผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนนั่นเอง ======================== TCS แบ่งการลงทุนเป็น 3 ระยะคือ ระยะสั้น 1-4 ปี เหมาะกับกองทุนตราสารหนี้ ความเสี่ยง 4 (ผลตอบแทนคาดหวัง 2-3% ต่อปี) ระยะกลาง 5-9 ปี เหมาะกับกองทุนผสม(ตราสารหนี้+หุ้น) ความเสี่ยง 5 (ผลตอบแทนคาดหวัง 4-5% ต่อปี) ระยะยาว 10 ปีขึ้นไป เหมาะกับกองทุนหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก ความเสี่ยงระดับ 6-8 (ผลตอบแทนคาดหวัง 6-8% ต่อปี) จะเห็นว่ากองทุนรวมความเสี่ยงยิ่งสูง ผลตอบแทนคาดหวังยิ่งสูง แต่อย่าลืมว่าความเสี่ยงต่อการขาดทุนก็สูงด้วยเช่นกัน สรุปได้ว่า “High risk, High return, High loss” สไตล์ TCS เป็นการลงทุนระยะยาว 20 ปี รับความเสี่ยงได้สูงจึงเหมาะกับกองทุนหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อรับผลตอบแทนคาดหวังสูงสุดนั่นเอง [Take home message] “If you don’t find a way to make money while you sleep, you will work until you die.” Warren Buffett “ถ้าคุณไม่หาวิธีทำเงินในขณะนอนหลับได้ คุณจะต้องทำงานไปจนวันตาย” #2DecadesInvestor #นักลงทุน2ทศวรรษPhotos from Thai-Cashless-Society สังคมไทยไร้เงินสด’s post

New Year, New You รู้เรื่องกองทุนรวมใน 6 Stones (Episode 4) ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แอดมินขอรวบรวมความรู้ทั้งปีมาไว้ที่ 6 Infinity Stones ท่านใดเก็บอัญมณีครบทั้ง 6 เม็ดขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ^^ ========================== พอร์ตการลงทุนจะโตเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับแก้ว 3 ประการคือ 1. เงินลงทุน 2. ผลตอบแทน 3. ระยะเวลา ท่านได้เรียนรู้เรื่องระยะเวลาและเงินทุนไปแล้ว ตอนนี้จะเป็นแก้วประการสดท้ายคือผลตอบแทนครับกับ Power Stone “High risk, High return, High loss” ก่อนอื่นขอให้รู้จักความแตกต่างของ 3 สิ่งนี้ก่อน การพนัน เช่นการซื้อหวย ถ้าถูกจะได้รางวัลแต่ถ้าไม่ถูกจะสูญเงินต้นไปเลยเช่น การฝากเงิน เช่นบัญชีออมทรัพย์ เงินต้นจะเท่าเดิม เพิ่มเติมคือได้ดอกเบี้ย การลงทุน(Investment) เงินต้นอาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลงทุนไปได้กำไรหรือขาดทุน เงินออมที่เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน ฉุกเฉินแปลว่าสภาพคล่องต้องสูงคือถอนออกมาใช้ได้ทุกวัน แนะนำให้เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัลดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปีขึ้นไป(ตามโพยในรูป) จากซีรีส์หนังสือ […]

โลกของการลงทุน ประสบการณ์การลงทุนครั้งแรก(First impression) สำคัญมาก เพราะมีผลต่อสไตล์การลงทุน 1️⃣ ท่านใดที่เข้ามาลงทุนครั้งแรกช่วงตลาดขาขึ้นอย่างตอนหลังโควิด จิ้มกองทุนอะไรก็ได้กำไร ยิ่งกองทุนหุ้นซิ่งยิ่งขึ้นแรงกำไรเยอะ ประสบการณ์ที่ดีทำให้ชอบกองทุนหุ้นซิ่งจนมีเต็มพอร์ตไปหมด 2️⃣ ตรงกันข้ามถ้าเข้ามาลงทุนครั้งแรกช่วงตลาดปรับฐานก็จะลงทุนระมัดระวังและไม่ชอบหุ้นซิ่งมากนัก 3️⃣ นักลงทุนบางคนเข้ามาเจอช่วงตลาดขาลงหนักจิ้มกองทุนไหนก็ขาดทุนหนัก สุดท้ายกลายเป็นเกลียด/กลัวกองทุนหุ้นจนออกจากตลาดไปไม่กลับมาอีกเลย ชาว TCS ประสบการณ์ครั้งแรกเป็นแบบไหนกันครับ? 1️⃣ 2️⃣ หรือ 3️⃣ #2DecadesInvestor #นักลงทุน2ทศวรรษ =============== ห้าขั้นตอนการลงทุน 1. วางแผนตั้งเป้าหมายก่อนเสมอ 2. จัดพอร์ตกระจายทั่วโลกแบบ CSR 3. คัดเลือกกองทุนที่ไม่ซิ่ง 4.ลงทุนระยะยาวแบบ DCA 5.ติดตามพอร์ต 6 เดือนครั้ง [How to] จากพันสู่ล้านผ่านกองทุนรวม(อย่างย่อ) https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1517550565290324 ===============[How to] จากพันสู่ล้านผ่านกองทุนรวม (อย่างย่อ) 1️⃣ ออมก่อนใช้ 20% คือได้เงินมา 100 บาท หักออมทันที 20 บาท 2️⃣ จัดโมเดลพอร์ต TCS คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 7.2% ต่อปี 3️⃣ ลงทุนแบบ DCA ทุกวันหวยออกเป็นเวลา 20 ปีจะมีเงิน 1,000 เท่า!!! ตัวอย่างเงินเดือน 10,000 บาท หักออม 20% = 2,000 บาท นำมา DCA พอร์ต TCS งวดละ 1,000 บาท 20 ปีพอร์ตจะโตเป็น 1,000 บาท x 1,000 เท่า = 1 ล้านบาทนั่นเอง^^ How to ฉบับเต็ม👉 https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1405024529876262 ==================== {ชาว TCS} “แอดคะฉบับเต็มยาวไปไม่อ่านค่ะ มีอย่างย่อไหมคะ?” การลงทุนที่ดีสุดคือ “การลงทุนในตัวเอง” ดังนั้นเมื่อคุณขอมา แอดมินก็จัดให้ครับ ความรู้อย่างย่อมี 5 ข้อตามนี้ 1️⃣ กองทุนรวมมีหลายสินทรัพย์ให้เลือก จัดความเสี่ยงเป็นระดับ 1-8 เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่เพราะใช้เงินลงทุนน้อยและแต่ละกองทุนถือหุ้นหลักสิบถึงพันตัวจึงไม่เสี่ยงสูงเหมือนการซื้อหุ้นเป็นรายตัว กองทุนหุ้นแบบ Active คือผู้จัดการกองทุนเลือกซื้อหุ้นเองว่าจะซื้อตัวไหน/สัดส่วนเท่าไหร่ ส่วนกองทุนหุ้นแบบ Passive คือดัชนีมีหุ้นกี่ตัว/สัดส่วนเท่าไหร่ กองทุนก็ซื้อหุ้นล้อไปตามนั้น นั่นคือ Active fund ขึ้นอยู่กับ “ฝีมือของผู้จัดการกองทุน” เปลี่ยนผู้จัดการผลงานก็เปลี่ยนได้ กองทุนในไทยเปลี่ยนกองแม่ผลงานก็เปลี่ยนได้ ด้วยเหตุนี้ TCS จึง “ไม่ใช้ Active fund เป็น core port” พอร์ตการลงทุนแบ่งความเสี่ยงตามสัดส่วนหุ้นในพอร์ตเป็น 3 ระดับคือ – พอร์ตเสี่ยงต่ำ(Conservative portfolio) มีกองทุนหุ้น 30% คาดหวังผลตอบแทน 3% ต่อปี – พอร์ตเสี่ยงกลาง(Moderate portfolio) มีกองทุนหุ้น 50% คาดหวังผลตอบแทน 5% ต่อปี – พอร์ตเสี่ยงสูง(Aggressive portfolio) มีกองทุนหุ้น 70% ขึ้นไป คาดหวังผลตอบแทน 7% ต่อปี 2️⃣ แผนการลงทุนและระยะเวลา “การวางแผนการลงทุนไม่ใช่การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงที่สุด แต่เป็นการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ทำให้พอร์ตโตไปถึงเป้าหมายได้” แผนการลงทุนแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ – แบบสะสมมูลค่า คือสะสมเงินให้พอร์ตโตไปเรื่อยๆ ไม่นำเงินออกมาใช้จนกว่าจะถึงปลายทาง ควรเลือกกองทุนประเภทไม่ปันผล(accumulation) – แบบสร้างกระแสเงินสด คือต้องการให้พอร์ตผลิตเงินออกมาให้เรานำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ควรเลือกกองทุนประเภทปันผล(dividend) หรือปันหน่วย(auto redemption) TCS แบ่งการลงทุนเป็น 3 ระยะคือ ระยะสั้น👉 1-4 ปี เหมาะกับกองทุนตราสารหนี้ ความเสี่ยง 4 (ผลตอบแทน 2-3% ต่อปี) ระยะกลาง👉 5-9 ปี เหมาะกับกองทุนผสม(ตราสารหนี้+หุ้น) ความเสี่ยง 5 (ผลตอบแทน 4-5% ต่อปี) ระยะยาว👉 10 ปีขึ้นไป เหมาะกับกองทุนหุ้น/สินทรัพย์ทางเลือก ความเสี่ยงระดับ 6-8 (ผลตอบแทน 6-8% ต่อปี) ระยะสั้นและระยะกลาง Active fund มีโอกาสชนะ Passive fund แต่ระยะยาว “Active fund ส่วนใหญ่จะแพ้ Passive fund” พอร์ต TCS เป็นการลงทุนระยะยาว เป้าหมายคือพอร์ตโตเป็น 1 ล้านในปีค.ศ. 2040(อีก 20 ปี) จึงเลือกกองทุนไม่ปันผลเพื่อให้ผลตอบแทนมันทบต้นไปเรื่อยๆ ที่ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-8% ต่อปี คำนวณแล้วต้องลงทุน 2,000 บาทต่อเดือนพอร์ตจึงจะโตเป็น 1 ล้านบาทใน 20 ปี 3️⃣ กองทุนมีมากมาย เพื่อไม่ให้งงแนะนำจำแนกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้ 💁🏻‍♂️ จำแนกตามพื้นที่ – ตลาดพัฒนาแล้ว(DM) 23 ประเทศได้แก่ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เป็นต้น ค่อนข้างมั่นคง – ตลาดเกิดใหม่(EM) 27 ประเทศได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ไทย เป็นต้น ค่อนข้างผันผวน – ตลาดชายขอบ(FM) ได้แก่ เวียดนาม เป็นต้น ผันผวนมากกก – ทั่วโลก(global) ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนทั่วโลกไม่จำกัดพื้นที่ 💁🏻‍♂️ จำแนกตามลักษณะ – กลุ่ม growth ได้แก่ sector เทคโนโลยี เป็นต้น – กลุ่ม cyclical(หรือ value) ได้แก่ sector financial, consumer discretionary, material, industrial เป็นต้น – กลุ่ม defensive ได้แก่ sector health care, infrastructure, consumer staples เป็นต้น – กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ – กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน เป็นต้น – Thematic fund ได้แก่ กองทุนธีมนวัตกรรม, ธีมพลังงานสะอาด, ธีมฟินเทค เป็นต้น 💁🏻‍♂️ จำแนกตามสิทธิพิเศษ – กองทุนเปิดทั่วไป ซื้อขายได้ทุกวันทำการ – กองทุนลดหย่อนภาษี SSF เงื่อนไขหลักคือถือยาว 10 ปี – กองทุนลดหย่อนภาษี RMF เงื่อนไขหลักคือถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี 4️⃣ “อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียวกัน(Don’t put all your eggs in one basket)” เพราะถ้าตะกร้านั้นหล่นลงพื้นจะเสียหายหนักมาก ดังนั้นเงิน 2,000 บาท TCS นำมาจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงใน 4 สินทรัพย์ดังนี้ TCS Porfolio Model CSR 50-30-20 Core-Satellite-Reit Strategy ✅ กองทุนหุ้น 80% (1,600 บาท) ลงทุนใน Passive fund DM เป็นแกนหลัก(core) – Passive fund DM 50% (1,000 บาท) Active fund และ/หรือกองทุนหุ้น EM เป็นส่วนเสริม(satellite) – Active fund 30% (600 บาท) ✅ กองทุนอสังหาริมทรัพย์(Reit) 20% (400 บาท) ✅ กองทุนตราสารหนี้ 0% – ลงทุนระยะยาว 20 ปีไม่จำเป็นต้องมีตราสารหนี้ในพอร์ต ✅ สินค้าโภคภัณฑ์ 0% – ทองคำ/น้ำมัน/crypto 0% เพราะเป็นสินทรัพย์เก็งกำไรระยะสั้น ไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว คอนเซ็ปต์โมเดลพอร์ต TCS 💁🏻‍♂️ 1 พอร์ต 1 เป้าหมาย ลงทุนกระจายไม่กระจุก (แนะนำมี 4-6 กองทุนต่อพอร์ตก็พอ) 💁🏻‍♂️ 50% ของพอร์ตเป็นกองทุนหุ้น Passive DM เพื่อประกันว่าเงินครึ่งหนึ่งจะไม่แพ้ดัชนี 💁🏻‍♂️ 30% ของพอร์ตเป็นกองทุนหุ้น EM และ/หรือ Active Global เพื่อไม่พลาดโอกาสชนะดัชนี (Thematic fund มีได้ 5-10% ของพอร์ต) 💁🏻‍♂️ 20% ของพอร์ตเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คำนวณผลตอบแทนพอร์ต TCS หุ้น 80% x 8% ต่อปี = 6.4% ต่อปี อสังหา 20% x 4% ต่อปี =0.8% ต่อปี รวมเป็น 7.2% ต่อปี ***สรุปโมเดลพอร์ต TCS เป็น Aggressive portfolio คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 7.2% ต่อปี*** (พอร์ตติดลบไม่เกิน -10%) สัดส่วนกองทุนหุ้นในพอร์ตตามระยะเวลาลงทุน – ลงทุน 5 ปี ควรมีกองทุนหุ้น 50% – ลงทุน 7 ปี ควรมีกองทุนหุ้น 70% – ลงทุน 10 ปี มีกองทุนหุ้น 100% ได้ครับ 5️⃣ สไตล์การลงทุน สไตล์การลงทุนแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ – แบบ DCA คือลงทุนสม่ำเสมอโดยไม่สนใจราคา เน้นถือยาว(Time in market) ไม่ได้หวังผลตอบแทนสูงสุดแต่เป็นวิธีลงทุนที่ง่ายและได้ผลตอบแทนดีพอสมควร – แบบ Market timing คือจับจังหวะตลาด รอซื้อตอนราคาต่ำแล้วขายตอนราคาสูง คาดหวังว่าจะถูกทางเพื่อผลตอบแทนที่สูงที่สุด เหมาะกับคนที่มีความรู้และมีเวลาติดตามพอร์ต เพราะถ้าผิดทางต้องมีจุดตัดขาดทุน(stop loss) เวลาซื้อ/ขายกองทุนรวมจะได้ราคา NAV ของวันที่ทำรายการซึ่งกองทุนจะสรุปราคาตอนสิ้นวันนั้นและประกาศราคาใน 2-3 วันให้หลัง นั่นคือกองทุนรวมเป็นการซื้อ/ขายโดยที่ “ไม่รู้ราคาล่วงหน้า” ว่าจะได้เท่าไหร่? (ราคาที่เห็นเป็นราคาของวันก่อนหน้านะ) ตัวอย่างเช่นคุณเห็นกองทุนในพอร์ตกำไรอยู่ +5% เลยทำรายการขายไป ปรากฎว่าซวยวันนั้นกองทุนราคาร่วงหนัก -6% แทนที่จะได้กำไรกลายเป็นขายขาดทุนไป -1% เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามถ้าโชคดีวันนั้นกองทุนราคาขึ้น +2% คุณจะขายได้กำไร +7% นั่นเอง นอกจากนี้ TCS ยังมองว่าตลาดหุ้นเป็นสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ มีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมายทำให้ราคาขึ้นลงไร้ทิศทางเฉกเช่นการเดินสุ่ม(Random walk) ของคนเมา ทำให้ไม่สามารถใช้กราฟจับจังหวะได้ จึงเลือกสไตล์การลงทุนแบบ DCA ในความถี่เดือนละ 1-2 ครั้ง อย่างที่บอกตลาดหุ้นผันผวนขึ้นมีลงเป็นปกติ ดังนั้น “ไม่ควรดูพอร์ตทุกวันให้ใจหวั่นไหว” แนะนำว่า 6 เดือนค่อยประเมินพอร์ตทีนึงครับ เน้นย้ำอีกครั้งเราไม่ได้ลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนเป็น % ต่อปีเพียงอย่างเดียว แต่เรา “ลงทุนเพื่อซื้อเวลาให้กับตัวเอง” จงอย่าใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาเงิน แต่ให้เงินเป็นฝ่ายเดินมาหาเราบ้าง โดยปล่อยให้พอร์ตทำงานไป “ไม่ต้องเสียเวลาจับจังหวะตลาด!!!” เอาเวลาไปใส่ใจงานประจำทำให้ดีจะได้มีเงินมาเติมพอร์ตให้พอร์ตโตเร็วครับ^^ ======================== [อัปเดต 1 ม.ค. 2565] โพยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปีขึ้นไป https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1635041683541211 โพยดอกเบี้ยออมทรัพย์ดิจิทัล 1.5% ต่อปีขึ้นไป https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1552706081774772 โพยกองทุน SSF/RMF ปี 2021 https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1495423357503045 จักรวาลกองทุนรวม Passive Fund https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1586090531769660 ======================== TCS เป็น “House of Passive fund” มีหลักเกณฑ์การลงทุน 3 ข้อดังนี้ T = Ten years more (ลงทุนระยะยาว) C = Core-Sat. strategy (ลงทุน Passive fund เป็นแกนหลัก) S = Stability prefer (ลงทุนกองที่ SD น้อยกว่า 30%) สรุปเป็นปรัชญาของเพจว่า LISA: Long term International Stable Allocation ห้าขั้นตอนของการลงทุน 1. วางแผนตั้งเป้าหมายก่อนเสมอ 2. จัดพอร์ตกระจายสินทรัพย์แบบ CSR 3. คัดเลือกกองทุนที่ไม่ซิ่ง 4. ลงทุนระยะยาวแบบ DCA 5. ติดตามพอร์ต 6 เดือนครั้ง ***มือใหม่มักจะข้ามขั้นไปที่ข้อ 3 คือซื้อกองทุนโดยไม่จัดสัดส่วนพอร์ตก่อน*** ตัวอย่างพอร์ต TCS พอร์ตกองทุนทั่วไป TCS MillionBaht @Lottery Day https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1540222813023099 พอร์ตกองทุน RMF TCS RMF @Salary day https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1550787575299956 =================== 💁🏻‍♂️TCS ดูพอร์ต 6 เดือนครั้ง ดูอะไร? ในการจัดพอร์ตแบบ Asset Allocation ในพอร์ตจะมีสินทรัพย์หลายอย่าง การประเมินพอร์ตเทียบกับ benchmark จึงยุ่งยาก ✅กองทุนตราสารหนี้ ก็ต้องไปดู benchmark ว่าตราสารหนี้ตอนนั้นผลตอบแทนเท่าไหร่ ✅กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องไปดู benchmark ว่าอสังหาริมทรัพย์ตอนนั้นผลตอบแทนเท่าไหร่ ✅กองทุนหุ้น ก็ต้องไปดู benchmark ว่าตอนนั้นดัชนีหุ้นผลตอบแทนเท่าไหร่ . . . จากนั้นก็คำนวณตามน้ำหนักสัดส่วนในพอร์ตออกมาเป็น benchmark รวมของพอร์ตอีกที แล้วนำผลงานพอร์ตมาเทียบว่าชนะหรือแพ้ benchmark รวมในตอนนั้น บอกตามตรงแอดมินทำไม่เป็นครับ ขี้เกียจทำด้วย😅😅😅 ขอประเมินพอร์ตแบบบ้านๆ เลยละกัน พอร์ตเรือธงของเราคือ TCS MillionBaht แอดมินดูผลงานพอร์ตเทียบกับกองทุนดัชนีหุ้นโลก ✅K-WORLDX ครับ 👉ถ้าผลงานรวมของพอร์ตแพ้ แปลว่าซื้อ ✅K-WORLDX กองเดียวจบเลย จะจัดพอร์ตให้เสียเวลาทำไม😂😂😂 หรือเชื่อมั่นในกองทุนที่เลือกก็อดทนถือต่อ หรือจะเปลี่ยนกองทุนในพอร์ตก็ว่ากันไป 👉ถ้าผลงานรวมของพอร์ตชนะ แปลว่าพอร์ตที่จัดไว้ใช้ได้ สรุปว่า อยากให้นักลงทุนทุกท่านเห็นความสำคัญของการดูพอร์ตทุก 6 เดือน ส่วนจะประเมินผลงานด้วยวิธีใดสุดแล้วแต่ท่าน #อย่าลืมประเมินพอร์ตนะ แต่อย่าขยันประเมินพอร์ตทุกวัน มันถี่ไปเน้อออ การดูพอร์ตทุก 6 เดือนนอกจากได้ประเมินผลงานแล้วยังได้ติดตามสัดส่วนกองทุนในพอร์ตด้วยครับ เพราะการลงทุนระยะยาวกองทุนบางกองจะบวกหรือลบจนทำให้สัดส่วนเบี้ยวไปจากที่จัดไว้ แก้ได้ด้วยการปรับสมดุลพอร์ต(Portfolio rebalancing) เกณฑ์ในการปรับสมดุลพอร์ตมี 2 เกณฑ์ได้แก่ 1️⃣ ปรับตามเวลา(Periodic rebalancing) ปรับตามเวลาที่กำหนดไว้เช่น ปรับทุก 6 เดือน เป็นต้น 2️⃣ ปรับตามความเบี้ยว(Threshold rebalancing) ปรับตามความเบี้ยวที่กำหนดไว้เช่น ปรับเมื่อมีกองใดกองหนึ่งเบี้ยวไป 5% เป็นต้น สำหรับ TCS มัดรวม 2 เกณฑ์ไว้ด้วยกันเลยคือจะประเมินพอร์ตทุก 6 เดือนถ้ามีกองใดกองหนึ่งเบี้ยวไป 5% จะปรับสมดุลพอร์ตครับ วิธีการปรับสมดุลพอร์ตมี 2 วิธีได้แก่ 1️⃣ ไม่ใช้เงินใหม่ คือจะขายกองทุนที่สัดส่วนเกินแล้วนำเงินที่ได้ไปซื้อกองทุนที่สัดส่วนลดลง 2️⃣ ใช้เงินใหม่ คือใส่เงินใหม่เข้าไปในกองทุนที่สัดส่วนลดลงเพื่อให้สัดส่วนกลับมาตามเดิมนั่นเอง โดย TCS วางแผนไว้ว่าจะใช้วิธีที่ 2 ในการปรับสมดุลพอร์ต แอดมินยังเป็นมือใหม่ในการลงทุน เรามาเรียนรู้การลงทุนของจริงไปด้วยกันครับ^^ #2DecadesInvestor #นักลงทุน2ทศวรรษ ========================= ***กองทุนรวม(mutual fund) ไม่ใช่การฝากเงินในธนาคาร ดังนั้นเงินต้นมีโอกาสลดลงได้*** “ผลตอบแทนในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต” “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” #ร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆที่TCS #สังคมไทยไร้เงินสด = New Normal

โลกของการลงทุน ประสบการณ์การลงทุนครั้งแรก(First impression) สำคัญมาก เพราะมีผลต่อสไตล์การลงทุน 1️⃣ ท่านใดที่เข้ามาลงทุนครั้งแรกช่วงตลาดขาขึ้นอย่างตอนหลังโควิด จิ้มกองทุนอะไรก็ได้กำไร ยิ่งกองทุนหุ้นซิ่งยิ่งขึ้นแรงกำไรเยอะ ประสบการณ์ที่ดีทำให้ชอบกองทุนหุ้นซิ่งจนมีเต็มพอร์ตไปหมด 2️⃣ ตรงกันข้ามถ้าเข้ามาลงทุนครั้งแรกช่วงตลาดปรับฐานก็จะลงทุนระมัดระวังและไม่ชอบหุ้นซิ่งมากนัก 3️⃣ นักลงทุนบางคนเข้ามาเจอช่วงตลาดขาลงหนักจิ้มกองทุนไหนก็ขาดทุนหนัก สุดท้ายกลายเป็นเกลียด/กลัวกองทุนหุ้นจนออกจากตลาดไปไม่กลับมาอีกเลย ชาว TCS ประสบการณ์ครั้งแรกเป็นแบบไหนกันครับ? 1️⃣ 2️⃣ หรือ 3️⃣ #2DecadesInvestor #นักลงทุน2ทศวรรษ =============== ห้าขั้นตอนการลงทุน 1. วางแผนตั้งเป้าหมายก่อนเสมอ 2. จัดพอร์ตกระจายทั่วโลกแบบ CSR 3. คัดเลือกกองทุนที่ไม่ซิ่ง 4.ลงทุนระยะยาวแบบ DCA 5.ติดตามพอร์ต 6 เดือนครั้ง [How to] จากพันสู่ล้านผ่านกองทุนรวม(อย่างย่อ) https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1517550565290324 =============== [How to] จากพันสู่ล้านผ่านกองทุนรวม (อย่างย่อ) 1️⃣ ออมก่อนใช้ 20% คือได้เงินมา 100 บาท หักออมทันที 20 […]

1 313 314 315 316 317 797
Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์