ดึง “ญี่ปุ่น” เนรมิตโครงการบางซื่อฯ “ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ” ครม.ไฟเขียวเอ็มโอยูไทย-ญี่ปุ่น แลกเปลี่ยนข้อมูล เดินหน้าผลักดันโครงการบางซื่อ สู่แผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต รองรับการให้บริการขนส่งสาธารณะแบบวงจร น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อ ระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น และองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น เพื่อผลักดันแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อไปสู่การปฏิบัติ ปัจจุบันพื้นที่บริเวณบางซื่ออยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคม และวางแผนพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ของกรุงเทพมหานครในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะภายใต้กรอบ ASEAN Smart City Network (ASCN) และภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อฯ มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายญี่ปุ่น ส่วนการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบนั้น ทางกระทรวงคมนาคมและรฟท.จะจัดส่งข้อมูลทรัพย์สิน ข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาเมืองให้ทางญี่ปุ่น ขณะเดียวทางญี่ปุ่นจะส่งข้อมูลนโยบายและการพัฒนาเมือง กฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง แผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนและวิธีการดำเนินโครงการให้กับกระทรวงคมนาคมและรฟท. อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/395hyGh Photo Credit by : โพสต์ทูเดย์ Article Credit by : โพสต์ทูเดย์

ดึง “ญี่ปุ่น” เนรมิตโครงการบางซื่อฯ “ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ” ครม.ไฟเขียวเอ็มโอยูไทย-ญี่ปุ่น แลกเปลี่ยนข้อมูล เดินหน้าผลักดันโครงการบางซื่อ สู่แผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต รองรับการให้บริการขนส่งสาธารณะแบบวงจร น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อ ระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น และองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น เพื่อผลักดันแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อไปสู่การปฏิบัติ ปัจจุบันพื้นที่บริเวณบางซื่ออยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคม และวางแผนพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ของกรุงเทพมหานครในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะภายใต้กรอบ ASEAN Smart City Network (ASCN) และภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อฯ มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายญี่ปุ่น ส่วนการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบนั้น ทางกระทรวงคมนาคมและรฟท.จะจัดส่งข้อมูลทรัพย์สิน ข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาเมืองให้ทางญี่ปุ่น ขณะเดียวทางญี่ปุ่นจะส่งข้อมูลนโยบายและการพัฒนาเมือง กฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง แผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนและวิธีการดำเนินโครงการให้กับกระทรวงคมนาคมและรฟท. อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/395hyGh Photo Credit by : โพสต์ทูเดย์ Article […]

“ยูโร” แซง “ดอลลาร์” ขึ้นแท่นสกุลเงินธุรกรรมอันดับหนึ่ง สมาคมนานาชาติแห่งโทรคมนาคมการเงินระหว่างธนาคาร (SWIFT) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกในการบริการธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า เงินดอลลาร์สหรัฐได้สูญเสียสถานะสกุลเงินอันดับหนึ่งสำหรับการทำธุรกรรมทั่วโลกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบแปดปีให้กับเงินยูโรแล้ว โดยครั้งสุดท้ายที่เงินยูโรขึ้นมาอยู่ในอันดับหนึ่งคือเดือนกุมภาพันธ์ 2013 สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานจากข้อมูลจาก SWIFT พบว่าสกุลเงินยูโรเป็นสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในเดือนตุลาคม 2020 ตามด้วยดอลลาร์เป็นอันดับที่ 2 ตามด้วยเงินปอนด์อังกฤษอันดับที่ 3 และเงินเยนของญี่ปุ่นอันดับที่ 4 อันดับที่ 5 คือดอลลาร์แคนาดา ส่วนเงินหยวนของจีนขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 6 สถิติพบว่าการโอนเงินสด SWIFT โดยใช้สกุลเงินยูโรมีสัดส่วน 37.8% ในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 6% จากปีที่แล้ว และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2013 การใช้เงินดอลลาร์สหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 37.64% ลดลง 4.6% สกุลเงินสหรัฐอ่อนค่าลงมากกว่า 11% จากจุดสูงสุดในเดือนมีนาคมโดยอิงจากดัชนี Bloomberg ที่วัดเทียบกับตะกร้าสกุลเงินของคู่ค้ารายใหญ่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามูลค่าจะลดลงอีก ถึงกระนั้นธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) กล่าวในรายงานเดือนมิถุนายนว่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเงินระหว่างประเทศ ตามที่ BIS ระบุก็คือ “ประมาณ 85% ของธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั้งหมดเกิดขึ้นโดยใช้เงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกคิดเป็น 61% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการ” อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3lYegYT Photo Credit by : AFP PHOTO / Philippe HUGUEN Article Credit by : โพสต์ทูเดย์

“ยูโร” แซง “ดอลลาร์” ขึ้นแท่นสกุลเงินธุรกรรมอันดับหนึ่ง สมาคมนานาชาติแห่งโทรคมนาคมการเงินระหว่างธนาคาร (SWIFT) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกในการบริการธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า เงินดอลลาร์สหรัฐได้สูญเสียสถานะสกุลเงินอันดับหนึ่งสำหรับการทำธุรกรรมทั่วโลกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบแปดปีให้กับเงินยูโรแล้ว โดยครั้งสุดท้ายที่เงินยูโรขึ้นมาอยู่ในอันดับหนึ่งคือเดือนกุมภาพันธ์ 2013 สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานจากข้อมูลจาก SWIFT พบว่าสกุลเงินยูโรเป็นสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในเดือนตุลาคม 2020 ตามด้วยดอลลาร์เป็นอันดับที่ 2 ตามด้วยเงินปอนด์อังกฤษอันดับที่ 3 และเงินเยนของญี่ปุ่นอันดับที่ 4 อันดับที่ 5 คือดอลลาร์แคนาดา ส่วนเงินหยวนของจีนขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 6 สถิติพบว่าการโอนเงินสด SWIFT โดยใช้สกุลเงินยูโรมีสัดส่วน 37.8% ในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 6% จากปีที่แล้ว และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2013 การใช้เงินดอลลาร์สหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 37.64% ลดลง 4.6% สกุลเงินสหรัฐอ่อนค่าลงมากกว่า 11% จากจุดสูงสุดในเดือนมีนาคมโดยอิงจากดัชนี Bloomberg ที่วัดเทียบกับตะกร้าสกุลเงินของคู่ค้ารายใหญ่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามูลค่าจะลดลงอีก ถึงกระนั้นธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) กล่าวในรายงานเดือนมิถุนายนว่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเงินระหว่างประเทศ ตามที่ BIS ระบุก็คือ “ประมาณ 85% […]

ดึงโมเดล “ตลาดปลาญี่ปุ่น” อัพเกรด “สะพานปลา” การพลิกกลับมาทำกำไรปี 2563 ขององค์การสะพานปลา (อสป.) ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับรัฐวิสาหกิจ 1 ใน 3 ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประสบปัญหาขาดทุนสะสม กระทั่งเสี่ยงจะถูกยุบ ได้เร่งรีเซตองค์การสะพานปลา 18 แห่ง ปรับบทบาทองค์กร-แผนงานให้ทันสมัยมากขึ้น นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) ยอมรับว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งช่วงกลางปี 2562 อสป.ถูกตัดงบประมาณจากภาครัฐ เนื่องจากปี 2561-2562 เบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 26% ของงบฯทั้งหมด กระทั่งปีนี้ 2563 เริ่มกลับมามีรายได้กว่า 200 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 25 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่าย ถือเป็นกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยเป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของทั้งหมด นอกเหนือจากรายได้ค่าธรรมเนียม 45% และรายได้อื่น ๆ 25% ซึ่งจากนี้ อสป.พร้อมจะนำรายได้นี้ส่งเข้าคลังรัฐ 40% นายมณเฑียรได้นำไอเดียตลาดปลาโทโยซุ (Toyosu Market) ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งอาหารกรุงโตเกียวมาปรับใช้ในการพัฒนา อสป.เป็นตลาดปลาทันสมัย รองรับธุรกิจทั้งค้าขายสินค้าประมง และรองรับนักท่องเที่ยว โดยชูนโยบายย้ายทะเลขึ้นเหนือ ทำให้ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และชลบุรี และอนาคตจะเชื่อมโยงถึงภาคอีสาน ที่ควรจะต้องมี “ตลาดปลาลุ่มน้ำโขง” ซึ่งตลาดปลาทั้ง 5 แห่ง ตั้งงบประมาณลงทุน 15,000 ล้านบาท หรือ 3,000 ล้านบาทต่อแห่ง โดยคาดว่ารายได้จากการเริ่มโครงการลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากโมเดลตลาดปลาอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นตลาดที่มีสินค้าสัตว์น้ำที่มีมาตรฐานถูกสุขอนามัย สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร และสินค้าประมง ยกระดับรายได้อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์และผู้ค้าสัตว์น้ำในชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจเป็นแหล่งท่องเที่ยว 328 ร้านค้า ที่จะเปิดดำเนินการในเดือน ม.ค. 2564 โดยนำรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ล่วงหน้า เก็บเงินเหมือนเงินดาวน์ เงินเกี๊ยวมาใช้ก่อน เพื่อลงทุนตามแผนกระจายสินค้านอกชายฝั่ง อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2ULKBGx Photo Credit by : ประชาชาติธุรกิจ Article Credit by : ประชาชาติธุรกิจ

ดึงโมเดล “ตลาดปลาญี่ปุ่น” อัพเกรด “สะพานปลา” การพลิกกลับมาทำกำไรปี 2563 ขององค์การสะพานปลา (อสป.) ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับรัฐวิสาหกิจ 1 ใน 3 ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประสบปัญหาขาดทุนสะสม กระทั่งเสี่ยงจะถูกยุบ ได้เร่งรีเซตองค์การสะพานปลา 18 แห่ง ปรับบทบาทองค์กร-แผนงานให้ทันสมัยมากขึ้น นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) ยอมรับว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งช่วงกลางปี 2562 อสป.ถูกตัดงบประมาณจากภาครัฐ เนื่องจากปี 2561-2562 เบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 26% ของงบฯทั้งหมด กระทั่งปีนี้ 2563 เริ่มกลับมามีรายได้กว่า 200 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 25 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่าย ถือเป็นกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยเป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของทั้งหมด นอกเหนือจากรายได้ค่าธรรมเนียม 45% และรายได้อื่น ๆ 25% ซึ่งจากนี้ อสป.พร้อมจะนำรายได้นี้ส่งเข้าคลังรัฐ […]

ฮือฮา “ปลาหมึกยักษ์หายาก” สีแดงทั้งตัว นักวิชาการเผย เคยพบครั้งแรกเมื่อ 30 ปี นักท่องเที่ยวพบปลาหมึกยักษ์หายาก สีแดงทั้งตัว โผล่ชายหาดหลังเกาะปอดะ นักวิชาการเผยเป็นหมึกไดม่อนหายาก เคยพบครั้งแรกเมื่อ 30 ปี วันที่ 22 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวเจอปลาหมึกตัวสีแดงขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 ฟุต หนักกว่า 2 กก. โผล่ขึ้นมาบริเวณน้ำตื้น บนอ่าวบุหยา หลังเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ สร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่างพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เนื่องจากไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน จากนั้นผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว นำไปปล่อยกลางทะเล ก่อนที่หมึกตัวดังกล่าวดำน้ำหายไป นายอภิวัฒน์ เหลืองอ่อน อายุ 36 ปี เจ้าของ บริษัทนำเที่ยวกระบี่จิงเฉิง จำกัด กล่าวว่า เจอหมึกตัวดังกล่าว เมื่อประมาณ กลางเดือนที่ผ่านมา ขณะนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นที่ บริเวณอ่าวบุหยาซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะปอดะ ปรากฏว่ามีปลาหมึกตัวดังกล่าว ลักษณะสีแดงทั้งตัว ว่ายหากินบริเวณน้ำตื้นชายหาด นักท่องเที่ยวก็พากันมามุงดูด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากไม่เคยพบเห็นมาก่อน ขณะที่ตนบริษัททัวร์มากว่า 10 ปี ก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาเคยเจอแต่ในสารคดีญี่ปุ่น หลังจากที่ทุกคนถ่ายภาพเรียบร้อย จึงนำหมึกตัวดังกล่าวไปปล่อยกลางทะเล ห่างจากชายหาดอ่าวบุหยาประมาณ 100 เมตร เพื่อให้กลับไปที่อยู่ของมัน ขณะที่ ดร.อนุวัฒน์ นทีวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า หมึกดังกล่าวเป็นหมึกไดม่อน ( Diamond squid ) เป็นหมึกที่อาศัยในทะเลลึกเขตร้อน หรือเขตอบอุ่น ตัวที่พบน่าจะยังเล็กอยู่ ส่วนตัวใหญ่จะมีความยาวงประมาณ 2-3 เมตร คาดว่าน่าจะหลงเข้ามา ในช่วงสภาพน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง ซึ่งในประเทศไทยตนพบครั้งแรก ที่ฝั่งทะเลอันดามัน จ. ภูเก็ต เมื่อประมาณ 30 ปี ก่อน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/35SyvBG Photo Credit by : ข่าวสดออนไลน์ Article Credit by : ข่าวสดออนไลน์

ฮือฮา “ปลาหมึกยักษ์หายาก” สีแดงทั้งตัว นักวิชาการเผย เคยพบครั้งแรกเมื่อ 30 ปี นักท่องเที่ยวพบปลาหมึกยักษ์หายาก สีแดงทั้งตัว โผล่ชายหาดหลังเกาะปอดะ นักวิชาการเผยเป็นหมึกไดม่อนหายาก เคยพบครั้งแรกเมื่อ 30 ปี วันที่ 22 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวเจอปลาหมึกตัวสีแดงขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 ฟุต หนักกว่า 2 กก. โผล่ขึ้นมาบริเวณน้ำตื้น บนอ่าวบุหยา หลังเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ สร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่างพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เนื่องจากไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน จากนั้นผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว นำไปปล่อยกลางทะเล ก่อนที่หมึกตัวดังกล่าวดำน้ำหายไป นายอภิวัฒน์ เหลืองอ่อน อายุ 36 ปี เจ้าของ บริษัทนำเที่ยวกระบี่จิงเฉิง จำกัด กล่าวว่า เจอหมึกตัวดังกล่าว เมื่อประมาณ กลางเดือนที่ผ่านมา ขณะนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นที่ บริเวณอ่าวบุหยาซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะปอดะ ปรากฏว่ามีปลาหมึกตัวดังกล่าว ลักษณะสีแดงทั้งตัว ว่ายหากินบริเวณน้ำตื้นชายหาด […]

โควิด-19 พลิกโฉม ‘พาสปอร์ตทรงอิทธิพล’ เฮนลีย์ พาสปอร์ต อินเด็กซ์ ศึกษาโดยใช้ข้อมูลพิเศษจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาพลิกโฉมการจัดอันดับการเดินทางทั่วโลก ที่ดูเหมือนจะไม่สั่นคลอนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และยังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นอีกมาก พาสปอร์ตของสหรัฐ ซึ่งเคยติดอันดับ 6 ในการจัดอันดับนี้ ด้วยจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า 185 แห่งในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีจุดหมายปลายทางเหลือเพียงไม่ถึง 75 แห่งเท่านั้นที่ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยที่ผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างอิสระมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก แต่ภายใต้ข้อกำหนดการเดินทางในขณะนี้ ชาวสิงคโปร์สามารถเดินทางไปได้เพียงไม่ถึง 80 ประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมมาตรการแบนและจำกัดการเดินทางอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นยังคงติดอันดับ 1 ในดัชนีพาสปอร์ตนี้ ด้วยคะแนนด้าน visa-free/visa-on-arrival สูงถึง 191 คะแนน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/331p6WA Photo Credit by : กรุงเทพธุรกิจ Article Credit by : กรุงเทพธุรกิจ

โควิด-19 พลิกโฉม ‘พาสปอร์ตทรงอิทธิพล’ เฮนลีย์ พาสปอร์ต อินเด็กซ์ ศึกษาโดยใช้ข้อมูลพิเศษจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาพลิกโฉมการจัดอันดับการเดินทางทั่วโลก ที่ดูเหมือนจะไม่สั่นคลอนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และยังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นอีกมาก พาสปอร์ตของสหรัฐ ซึ่งเคยติดอันดับ 6 ในการจัดอันดับนี้ ด้วยจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า 185 แห่งในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีจุดหมายปลายทางเหลือเพียงไม่ถึง 75 แห่งเท่านั้นที่ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยที่ผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างอิสระมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก แต่ภายใต้ข้อกำหนดการเดินทางในขณะนี้ ชาวสิงคโปร์สามารถเดินทางไปได้เพียงไม่ถึง 80 ประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมมาตรการแบนและจำกัดการเดินทางอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นยังคงติดอันดับ 1 ในดัชนีพาสปอร์ตนี้ ด้วยคะแนนด้าน visa-free/visa-on-arrival สูงถึง 191 คะแนน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/331p6WA Photo Credit by : กรุงเทพธุรกิจ Article Credit by […]

โกอินเตอร์!! ญี่ปุ่นฮือฮา “ร้านหมูกระทะไทย” เจ้าแรกในกรุงโตเกียว เพจ “Japan Guide Book” โพสต์ภาพจากรายการทีวีญี่ปุ่น “Good morning” ได้นำเสนอร้านหมูกระทะแห่งแรกในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้รับแรงบันดาลใจมากจากประเทศไทย โดยทางเพจระบุว่า “รายการทีวีญี่ปุ่น “Good! Morning” ได้นำเสนอร้านอาหารในธีมร้านที่ทำให้คุณเหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศ!! และธีมวันนี้คือ ประเทศไทย แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ก็เชื่อว่ามีคนญี่ปุ่นที่อยากจะสัมผัสความรู้สึกนั้นเหมือนกัน สำหรับหมูกระทะ จะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนญี่ปุ่นเท่าอาหารประเภทอื่นอย่างต้มยำ หรือแกงเขียวหวาน แต่เหมือนเป็นเมนูที่นิยมในท้องถิ่น และที่ร้าน Muu Tokyo ก็เป็นร้านแรกที่สามารถไปลิ้มลอง “หมูกระทะ” นี้ได้ ทางรายการบอกว่า หมูกระทะนั้นมีต้นกำเนิดมาจากทางภาคอีสานของไทย และก็อธิบายลักษณะของหมูกระทะว่าเป็นอย่างไร เป็นอาหารประเภทไหน ทางร้านสาธิตวิธีการทานหมูกระทะแบบไทยไทยเรานี่แหละค่ะ วางเนื้อหมูลงบนกระทะ และต้มผักลงรอบๆ แถมใช้กระทะทองเหลือที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีด้วยนะ ทางรายการถึงกับบอกว่า นี่มันภาชนะไฮบริด!! ไม่ใช่แค่ปิ้งย่างยากินิคุ แต่สามารถทำชาบูชาบูได้อีกด้วย ที่มาคลิป : ANNnewsCH ➡️ https://bit.ly/2J0fHqZ ที่มา : เพจ “Japan Guide Book” อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3kQu2nn Photo Credit by : ANNnewsCH, Japan Guide Book Article Credit by : MGR Online

โกอินเตอร์!! ญี่ปุ่นฮือฮา “ร้านหมูกระทะไทย” เจ้าแรกในกรุงโตเกียว เพจ “Japan Guide Book” โพสต์ภาพจากรายการทีวีญี่ปุ่น “Good morning” ได้นำเสนอร้านหมูกระทะแห่งแรกในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้รับแรงบันดาลใจมากจากประเทศไทย โดยทางเพจระบุว่า “รายการทีวีญี่ปุ่น “Good! Morning” ได้นำเสนอร้านอาหารในธีมร้านที่ทำให้คุณเหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศ!! และธีมวันนี้คือ ประเทศไทย แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ก็เชื่อว่ามีคนญี่ปุ่นที่อยากจะสัมผัสความรู้สึกนั้นเหมือนกัน สำหรับหมูกระทะ จะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนญี่ปุ่นเท่าอาหารประเภทอื่นอย่างต้มยำ หรือแกงเขียวหวาน แต่เหมือนเป็นเมนูที่นิยมในท้องถิ่น และที่ร้าน Muu Tokyo ก็เป็นร้านแรกที่สามารถไปลิ้มลอง “หมูกระทะ” นี้ได้ ทางรายการบอกว่า หมูกระทะนั้นมีต้นกำเนิดมาจากทางภาคอีสานของไทย และก็อธิบายลักษณะของหมูกระทะว่าเป็นอย่างไร เป็นอาหารประเภทไหน ทางร้านสาธิตวิธีการทานหมูกระทะแบบไทยไทยเรานี่แหละค่ะ วางเนื้อหมูลงบนกระทะ และต้มผักลงรอบๆ แถมใช้กระทะทองเหลือที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีด้วยนะ ทางรายการถึงกับบอกว่า นี่มันภาชนะไฮบริด!! ไม่ใช่แค่ปิ้งย่างยากินิคุ แต่สามารถทำชาบูชาบูได้อีกด้วย ที่มาคลิป : ANNnewsCH ➡️ https://bit.ly/2J0fHqZ ที่มา : เพจ “Japan Guide […]

ขึ้นอันดับ 1 “ฮ่องกง” มาแรงแซงสวิสฯ – ปารีส เมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลก ฮ่องกง นครซือริช และกรุงปารีส ติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ ส่วนกรุงเทพฯ ติดอันดับ 46 การเปลี่ยนแปลงของอันดับส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก ผลการสำรวจประจำปีของ ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต หรือ อีไอยู ที่เผยแพร่วานนี้ ระบุว่า เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ คือ ฮ่องกง ตามด้วย นครซือริช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยซือริชและปารีส แซงสิงคโปร์ และโอซากาของญี่ปุ่นสู่อันดับหนึ่ง เนื่องจากเงินฟรังซ์สวิส และเงินยูโรแข็งค่าขึ้น โดยสิงคโปร์ตกไปอยู่อันดับ 4 ตามด้วยนครเทลอาวีฟของอิสราเอล และนครโอซากาอยู่ในอันดับ 5 ส่วนนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ และนครนิวยอร์กของสหรัฐอยู่ในอันดับ 7 กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กอันดับ 8 และนครลอสแองเจลิสของสหรัฐอยู่ในอันดับ 9 ส่วนกรุงเทพฯ ของไทยติดอันดับ 46 ทั้ง 10 เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งจาก 133 เมืองทั่วโลกที่ถูกสำรวจ และมีการเปรียบเทียบค่าครองชีพจากราคาสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันรวม 138 รายการ การเปลี่ยนแปลงอันดับในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสถานการณ์ระบาดของของโควิด-19 ทั่วโลกและผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาด โดยสินค้าอย่าง ยาสูบ และบริการด้านนันทนาการ มีราคาสูงขึ้นมากที่สุด ขณะที่เสื้อผ้ามีราคาลดลงมากที่สุด ที่มา : ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3kXxDjH Photo Credit by : TNN Thailand Article Credit by : TNN Thailand ฮ่องกง มาแรงแซงสวิสฯ – ปารีส ขึ้นอันดับ 1 เมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลกbit.lyฮ่องกง นครซือริช และกรุงปารีส ติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ ส่วนกรุงเทพฯ ติดอันดับ …

ขึ้นอันดับ 1 “ฮ่องกง” มาแรงแซงสวิสฯ – ปารีส เมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลก ฮ่องกง นครซือริช และกรุงปารีส ติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ ส่วนกรุงเทพฯ ติดอันดับ 46 การเปลี่ยนแปลงของอันดับส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก ผลการสำรวจประจำปีของ ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต หรือ อีไอยู ที่เผยแพร่วานนี้ ระบุว่า เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ คือ ฮ่องกง ตามด้วย นครซือริช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยซือริชและปารีส แซงสิงคโปร์ และโอซากาของญี่ปุ่นสู่อันดับหนึ่ง เนื่องจากเงินฟรังซ์สวิส และเงินยูโรแข็งค่าขึ้น โดยสิงคโปร์ตกไปอยู่อันดับ 4 ตามด้วยนครเทลอาวีฟของอิสราเอล และนครโอซากาอยู่ในอันดับ 5 ส่วนนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ และนครนิวยอร์กของสหรัฐอยู่ในอันดับ 7 กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กอันดับ 8 และนครลอสแองเจลิสของสหรัฐอยู่ในอันดับ 9 ส่วนกรุงเทพฯ ของไทยติดอันดับ 46 ทั้ง 10 เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งจาก […]

รอนานมากกก…กว่าจะมาถึง นิชชิน รสที่แอดมินรอคอยข้ามทะเลมาหาแอดมินแล้ว ต้มยำจุ้ง กับเขียวหวาน รสชาติของไทย ที่ไม่มีขายในไทย ปล.แอดมินกินตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก อร่อยเว้อกลับไทยมาตามหา ปรากฏว่ารสนี้ไม่มีขายในไทยเอะยังไง งง .. #nissin #nissincupnoodles #nissinjapan #SiamOrchardGroupWatch video on Facebook.com

รอนานมากกก…กว่าจะมาถึง นิชชิน รสที่แอดมินรอคอยข้ามทะเลมาหาแอดมินแล้ว ต้มยำจุ้ง กับเขียวหวาน รสชาติของไทย ที่ไม่มีขายในไทย ปล.แอดมินกินตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก อร่อยเว้อกลับไทยมาตามหา ปรากฏว่ารสนี้ไม่มีขายในไทยเอะยังไง งง .. #nissin #nissincupnoodles #nissinjapan #SiamOrchardGroup อ่านต่อบน Facebook

#ChangTrixGet ใครอยากล่องเรือยอร์ชสุดหรู ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ #ถึงเวลาซื้อประกันปลายปีแล้ว #ซื้อครบรับสิทธิ์เลย . ❤️ ซิกน่าประกันออนไลน์ จัดโปรฯฉลองส่งท้ายปีแบบฟิน ๆ ทั้งแผนประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ⭐️ #รับทริปล่องเรือยอร์ซสุดหรู #แบบExclusive #เหมาทั้งลำมูลค่า 16,000 บาท จำนวน 30 สิทธิ์ (1 สิทธิ์ / 1 ลำ ไม่เกิน 8 ท่าน) . ✨ เพียงแค่มียอดซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ 20,000 บาท #จะรวมกี่กรมธรรม์ก็ได้ 🗓️ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. – 15 ธ.ค. 63 🌞 กรอกโค้ด : IAMVIP ผู้ที่ทำตามเงื่อนไขครบถ้วน 30 ท่าน ติดต่อ @Cigna Thailand เพื่อยืนยันรับสิทธิ์ . ⭐️รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก : https://www.cigna.co.th/buy-promotion/iamvip ♦️ สำหรับแผนที่ซื้อออนไลน์ผ่าน https://buy.cigna.co.th . ☀️ สำหรับประกันสุขภาพมิติใหม่ หรือ ประกันโรคร้ายแรง มีที่น่าสนใจหลายตัว เช่น 🔥 ประกันสุขภาพมิติใหม่ ซูเปอร์แพลนสมาร์ทโกลด์ เริ่มต้น 594 บาท / เดือน #รายละเอียดเพิ่มเติม >>> https://bit.ly/387bgFJ 🔥 ประกันสุขภาพมิติใหม่ ซูเปอร์แพลนโรคร้ายไม่กลัว เริ่มต้น 709 บาท / เดือน #รายละเอียดเพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2GbOhNX 🔥 ประกันสุขภาพมิติใหม่ ชดเชยรายได้โรคร้ายไม่กลัว เริ่มต้น 410 บาท / เดือน #รายละเอียดเพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3msPpMK 👉🏻ประกันสุขภาพโรคร้ายสู้มะเร็งทุกระยะ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ คุ้มครองสูงสุด 1 ล้าน จ่ายเบี้ยคงที่ 10 ปี https://bit.ly/36Da9uX 👉🏻ประกันสุภาพโรคออฟฟิศซินโดรม ใช้ลดหย่อนภาษีได้ คุ้มครองทั้ง ไมเกรน กรดไหลย้อน บ้านหมุน นิ้วล้อค ฯลฯ สูงสุด 6แสน https://bit.ly/3lxRvuB 👉🏻ประกันอุบัติเหตุสุดคุ้ม คุ้มครองสูงสุด 2 ล้าน ไม่เคลมคืนเงิน 15% https://bit.ly/2GZgwji 👉🏻หรือเข้าไปดูแผนประกันทั้งหมดได้ที่ : https://bit.ly/35vCDHA . #ประกันที่น่าสนใจ >>> https://buy.cigna.co.th #ใช้โค้ด >>> IAMVIP . ————— 🎯 รีวิวขั้นตอนการเคลมประกันกรณีไม่สบายในต่างประเทศ >>> http://url.changreview.com/v51Y3 🎯 รีวิวขั้นตอนการเคลมกระเป๋าเดินทางเสียหาย >>> http://url.changreview.com/0oV5w 🎯 รีวิวเปรียบเทียบประกันการเดินทางรายปี กับ รายเที่ยว >>> https://url.changreview.com/spkQO 🎯 รีวิวขั้นตอนการซื้อประกันการเดินทาง Cigna >>> https://url.changreview.com/RFSRy #ประกันการเดินทาง #เปรียบเทียบประกันการเดินทาง #รายเที่ยว #รายปี #Cigna #ซิกน่า #ไปญี่ปุ่นต้องเลือกซิกน่า #ประกันสุขภาพมิติใหม่ #ประกันสุขภาพ #CIGNACARECARD #ไม่ต้องสำรองค่ารักษาพยาบาล ———————————- #Travel #Shopping #Dining #Hotel #Promotion #News #Ticket #ตั๋วถูก #ทางลัด #โปรโมชั่น #ตั๋วเครื่องบิน #ส่วนลด #โรงแรม #ตั๋วโปร ———————————- บินใกล้บินไกล ซื้อประกันเดินทางไว้อุ่นใจสุด >> https://url.changreview.com/CignaFBPhotos from ChangTrixGet’s post

#ChangTrixGet ใครอยากล่องเรือยอร์ชสุดหรู ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ #ถึงเวลาซื้อประกันปลายปีแล้ว #ซื้อครบรับสิทธิ์เลย . ❤️ ซิกน่าประกันออนไลน์ จัดโปรฯฉลองส่งท้ายปีแบบฟิน ๆ ทั้งแผนประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ⭐️ #รับทริปล่องเรือยอร์ซสุดหรู #แบบExclusive #เหมาทั้งลำมูลค่า 16,000 บาท จำนวน 30 สิทธิ์ (1 สิทธิ์ / 1 ลำ ไม่เกิน 8 ท่าน) . ✨ เพียงแค่มียอดซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ 20,000 บาท #จะรวมกี่กรมธรรม์ก็ได้ 🗓️ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. – 15 ธ.ค. 63 🌞 กรอกโค้ด : IAMVIP ผู้ที่ทำตามเงื่อนไขครบถ้วน 30 ท่าน ติดต่อ @Cigna Thailand เพื่อยืนยันรับสิทธิ์ . […]

ไทยพบป่วยโควิดอีก 4 ราย เป็นหญิงเดินทางมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันดังนี้ -พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (State Quarantine) โดยมาจากเยอรมนี 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และสาธารณรัฐเช็ก 2 ราย -จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,892 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,453 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,439 ราย -ผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 3,745 ราย -มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 87 ราย -ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม/ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 60 ราย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2IJZIhn Photo Credit by : Posttoday Article Credit by : Posttoday ไทยพบป่วยโควิดอีก 4 ราย เป็นหญิงเดินทางมาจากต่างประเทศbit.lyศบค.แถลงพบผู้ป่วยติดโควิดเพิ่ม 4 ราย เป็นหญิงไทย เดินทางมาจาก เยอรมนี 1ราย สาธารณรัฐเช็ก 2 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย …

ไทยพบป่วยโควิดอีก 4 ราย เป็นหญิงเดินทางมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันดังนี้ -พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (State Quarantine) โดยมาจากเยอรมนี 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และสาธารณรัฐเช็ก 2 ราย -จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,892 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,453 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,439 ราย -ผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 3,745 ราย -มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 87 ราย -ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม/ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 60 ราย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2IJZIhn Photo Credit by […]

1 359 360 361 362 363 797
Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์