‘การบินไทย’ จัด 8 เที่ยวบินรับคนไทยกลับบ้าน นาวาอากาศตรี อนิรุต แสงฤทธิ์ รักษาการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ (THAI Operations Control Center : TOCC) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศของไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย (ไทเป) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต จัดเที่ยวบินพิเศษรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 8 เที่ยวบิน จากสหราชอาณาจักร มาเลเซีย ฮ่องกง กลุ่มประเทศนอร์ดิก ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ระหว่างวันที่ 1-6 พฤศจิกายน 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. เที่ยวบินที่ ทีจี 917 เส้นทาง ลอนดอน-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากสหราชอาณาจักร จำนวน 179 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 14 ออกเดินทางจากลอนดอน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 21.28 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.30 น. 2. เที่ยวบินที่ ทีจี 416 เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากมาเลเซีย จำนวน 85 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 ออกเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.15 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 14.11 น. ในวันเดียวกัน 3. เที่ยวบินที่ ทีจี 639 เส้นทาง ฮ่องกง-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากฮ่องกง จำนวน 195 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 9 ออกเดินทางจากฮ่องกง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลา 18.45 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 20.33 น. ในวันเดียวกัน 4. เที่ยวบินที่ ทีจี 961 เส้นทาง สตอกโฮล์ม-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากสวีเดน จำนวน 247 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 10 ออกเดินทางจากสตอกโฮล์ม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.02 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 07.57 น. 5. เที่ยวบินที่ ทีจี 633 เส้นทาง ไทเป-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากไต้หวัน จำนวน 142 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 15 ออกเดินทางจากไทเป เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.43 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.19 น. ในวันเดียวกัน 6. เที่ยวบินที่ ทีจี 643 เส้นทาง โตเกียว (นาริตะ)-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 29 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 1 ออกเดินทางจากโตเกียว (นาริตะ) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.40 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 15.54 น. ในวันเดียวกัน 7. เที่ยวบินที่ ทีจี 633 เส้นทาง ไทเป-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากไต้หวัน จำนวน 166 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 16 ออกเดินทางจากไทเป เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.11 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.39 น. ในวันเดียวกัน 8. เที่ยวบินที่ ทีจี 923 เส้นทาง แฟรงก์เฟิร์ต-กรุงเทพฯ รับผู้โดยสารชาวไทยจากเยอรมนี จำนวน 112 คน กลับประเทศไทย เป็นครั้งที่ 10 ออกเดินทางจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เวลา 20.50 น. ถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.39 น. บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจในเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับคนไทยกลับบ้านมาพบกับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีพนักงานการบินไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมปฏิบัติหน้าที่ประสานงาน และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ทำการขนส่งสินค้าในเที่ยวบินทั้งขาไปและขากลับอีกด้วย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3pqBdWI Photo Credit by : Bangkokbiznews Article Credit by : Bangkokbiznews ‘การบินไทย’ จัด 8 เที่ยวบินรับคนไทยกลับบ้านbit.ly”การบินไทย” จัด 8 เที่ยวบินจากสหราชอาณาจักร มาเลเซีย ฮ่องกง กลุ่มประเทศนอร์ดิก ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเยอรมนี กล…..

‘การบินไทย’ จัด 8 เที่ยวบินรับคนไทยกลับบ้าน นาวาอากาศตรี อนิรุต แสงฤทธิ์ รักษาการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ (THAI Operations Control Center : TOCC) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศของไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย (ไทเป) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต จัดเที่ยวบินพิเศษรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 8 เที่ยวบิน จากสหราชอาณาจักร มาเลเซีย ฮ่องกง กลุ่มประเทศนอร์ดิก ไต้หวัน […]

🎵…ขอมือหน่อยอากาศหนาว หนาว ไม่ชอบเลย 🎶 #แฮนด์ครีมญี่ปุ่นตอบโจทย์ทุกคน!! หลอดเดียวครบทั้งปกป้อง และบำรุงมือ กับแฮนด์ครีม+ป้องกันเชื้อโรค ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ที่ส่วนผสมมาจากธรรมชาติ พร้อมส่งให้คุณแล้ววันนี้ค่ะ ราคาหลอดละ 339 บาทเท่านั้น โทรสอบถาม 02-612-8500 #สยามออเชิร์ดกรุ๊ป

🎵…ขอมือหน่อยอากาศหนาว หนาว ไม่ชอบเลย 🎶 #แฮนด์ครีมญี่ปุ่น ตอบโจทย์ทุกคน!! หลอดเดียวครบทั้งปกป้อง และบำรุงมือ กับแฮนด์ครีม+ป้องกันเชื้อโรค ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ที่ส่วนผสมมาจากธรรมชาติ พร้อมส่งให้คุณแล้ววันนี้ค่ะ ราคาหลอดละ 339 บาทเท่านั้น โทรสอบถาม 02-612-8500 #สยามออเชิร์ดกรุ๊ป อ่านต่อบน Facebook

ชาวญี่ปุ่น ร่วมกันจัดอันดับปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น 2020 ที่ญี่ปุ่นมีปราสาทที่สวยงามอยู่มากมาย และมีประวัติศาตร์ที่น่าสนใจรอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม แต่ละแห่งจะมีบรรยากาศและลักษณะของภูมิหลังทางประวัติศาสตร์มากมายให้เรียนรู้ และที่ตั้งของปราสาทแต่ละแห่งยังมีความหลากหลาย ซึ่งวันนี้มีผลของแบบสำรวจความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นกลุ่มเป้าหมายจำนวนหนึ่ง เกี่ยวกับปราสาทที่มีความสวยงามประทับใจมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยผลสำรวจพบว่าคนญี่ปุ่นยกให้ปราสาทดังต่อไปนี้สวยงามที่สุด คือ อันดับที่ 1 “ปราสาทฮิเมจิ” จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิมีชื่อฉายาว่า “ฮากุโระโจ ชิราซากิโจะ” เพราะมีลักษณะสวยงามและมีสีขาวบริสุทธิ์เหมือนปีกนกกระสาสีขาวที่แผ่กระจายออกไป ผนังของตัวปราสาททาสีขาวด้วยปูนสีขาว ความที่มีลักษณะเป็นสีขาวที่สว่างโดดเด่น และมีหอปราสาทขนาดใหญ่บนชั้น 5 และ 6 คือผลงานชิ้นเอกที่มีความสมบูรณ์ด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบครันตามแบบของปราสาทญี่ปุ่นโบราณ ทั้งฐานหินที่สูง กำแพงสีขาว และอาคารโบราณต่างๆ รอบบริเวณปราสาท เป็นหนึ่งในไม่กี่ปราสาทเก่าแก่ที่รอดพ้นจากภัยธรรมชาติและแผ่นดินไหวใหญ่ และยังคงรักษาลักษณะที่สวยงามดั้งเดิมมามากกว่า 400 ปี นอกจากจะได้รับเลือกให้เป็นสมบัติของชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สําคัญแล้ว ปราสาทฮิเมจิยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นด้วย ตัวอย่างความรู้สึกของผู้โหวต ” เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดของญี่ปุ่น และไม่เคยถูกทำลายมาก่อน ทั้งจากสงคราม เพลิงไหม้ หรือแผ่นดินไหว เป็นความอัศจรรย์มากค่ะ ” “ตัวปราสาทยังคงรูปแบบเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ แถมยังเป็นมรดกโลก UNESCO ด้วย ช่วงที่ซากุระบานที่นี่เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีความงดงามราวกับอยู่ในความฝัน” อันดับที่ 2 “ปราสาทคุมาโมโตะ” จังหวัดคุมาโมโตะ อันดับที่ 3 “ปราสาทมัตสึโมโต้” จังหวัดนากาโนะ อันดับที่ 4 “ปราสาทสึรุกะ” จังหวัดฟุกุชิมะ อันดับที่ 5 “ปราสาทโอซาก้า” จังหวัดโอซาก้า อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3kinGwL Photo Credit by : ผู้จัดการออนไลน์ Article Credit by : ผู้จัดการออนไลน์

ชาวญี่ปุ่น ร่วมกันจัดอันดับปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น 2020 ที่ญี่ปุ่นมีปราสาทที่สวยงามอยู่มากมาย และมีประวัติศาตร์ที่น่าสนใจรอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม แต่ละแห่งจะมีบรรยากาศและลักษณะของภูมิหลังทางประวัติศาสตร์มากมายให้เรียนรู้ และที่ตั้งของปราสาทแต่ละแห่งยังมีความหลากหลาย ซึ่งวันนี้มีผลของแบบสำรวจความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นกลุ่มเป้าหมายจำนวนหนึ่ง เกี่ยวกับปราสาทที่มีความสวยงามประทับใจมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยผลสำรวจพบว่าคนญี่ปุ่นยกให้ปราสาทดังต่อไปนี้สวยงามที่สุด คือ อันดับที่ 1 “ปราสาทฮิเมจิ” จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิมีชื่อฉายาว่า “ฮากุโระโจ ชิราซากิโจะ” เพราะมีลักษณะสวยงามและมีสีขาวบริสุทธิ์เหมือนปีกนกกระสาสีขาวที่แผ่กระจายออกไป ผนังของตัวปราสาททาสีขาวด้วยปูนสีขาว ความที่มีลักษณะเป็นสีขาวที่สว่างโดดเด่น และมีหอปราสาทขนาดใหญ่บนชั้น 5 และ 6 คือผลงานชิ้นเอกที่มีความสมบูรณ์ด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบครันตามแบบของปราสาทญี่ปุ่นโบราณ ทั้งฐานหินที่สูง กำแพงสีขาว และอาคารโบราณต่างๆ รอบบริเวณปราสาท เป็นหนึ่งในไม่กี่ปราสาทเก่าแก่ที่รอดพ้นจากภัยธรรมชาติและแผ่นดินไหวใหญ่ และยังคงรักษาลักษณะที่สวยงามดั้งเดิมมามากกว่า 400 ปี นอกจากจะได้รับเลือกให้เป็นสมบัติของชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สําคัญแล้ว ปราสาทฮิเมจิยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นด้วย ตัวอย่างความรู้สึกของผู้โหวต ” เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดของญี่ปุ่น และไม่เคยถูกทำลายมาก่อน ทั้งจากสงคราม เพลิงไหม้ หรือแผ่นดินไหว เป็นความอัศจรรย์มากค่ะ “ “ตัวปราสาทยังคงรูปแบบเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ แถมยังเป็นมรดกโลก UNESCO ด้วย ช่วงที่ซากุระบานที่นี่เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีความงดงามราวกับอยู่ในความฝัน” อันดับที่ 2 “ปราสาทคุมาโมโตะ” […]

ทำตกกันบ่อยนัก! พานาโซนิคสร้างเครื่องเก็บ “หูฟังไร้สาย” แก้ปัญหาตกบนรางรถไฟแล้วหยิบยาก เพราะอุปกรณ์เล็ก ๆ เหล่านี้พอตกลงไปบนรางรถไฟแล้วช่างหยิบยากหยิบเย็นเสียเหลือเกิน พานาโซนิคก็เลยสร้างเครื่องดูดไร้สายมาช่วยหยิบซะเลย ตั้งแต่เรามีหูฟังไร้สายใช้งานกันอยู่ทั่วไป ปัญหาการทำหูฟังหาย ตก หล่น ไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบนรางรถไฟฟ้าก็กลายเป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อย ๆ เสียแล้ว แต่ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่างพานาโซนิคมีทางแก้ไขมาให้ ด้วยการร่วมมือกันกับบริษัทรถไฟฟ้าของญี่ปุ่น JR East rail group พัฒนาเครื่องดูดแบบไร้สายที่จะมาช่วยหยิบหูฟังไร้สายแบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยในก่อนหน้านี้เจ้าพนักงานประจำสถานีรถไฟของญี่ปุ่นมักจะใช้เครื่องมือจับในการเก็บวัตถุต่าง ๆ เช่นรองเท้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง แต่เพราะหูฟังไร้สายนั้นมีขนาดเล็กเกินไปจึงทำให้ติดอยู่ในซอกกรวดของรางรถไฟและยากต่อการเก็บคืนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้มีการผลิตเครื่องดูดที่มีท่อขนาดเท่านิ้วคนที่สามารถใช้ดูดตัวหูฟังจากจุดซอกหลืบเล็กต่าง ๆ ได้ จากนั้นก็สามารถถือมันไว้ได้ด้วยเครื่องโดยไม่ถูกดูดเข้าไปในตัวเครื่องดูดแต่อย่างได ขอบคุณข้อมูลจาก : Engadget อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3paYHPF Photo Credit by : TNN Thailand Article Credit by : TNN Thailand

ทำตกกันบ่อยนัก! พานาโซนิคสร้างเครื่องเก็บ “หูฟังไร้สาย” แก้ปัญหาตกบนรางรถไฟแล้วหยิบยาก เพราะอุปกรณ์เล็ก ๆ เหล่านี้พอตกลงไปบนรางรถไฟแล้วช่างหยิบยากหยิบเย็นเสียเหลือเกิน พานาโซนิคก็เลยสร้างเครื่องดูดไร้สายมาช่วยหยิบซะเลย ตั้งแต่เรามีหูฟังไร้สายใช้งานกันอยู่ทั่วไป ปัญหาการทำหูฟังหาย ตก หล่น ไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบนรางรถไฟฟ้าก็กลายเป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อย ๆ เสียแล้ว แต่ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่างพานาโซนิคมีทางแก้ไขมาให้ ด้วยการร่วมมือกันกับบริษัทรถไฟฟ้าของญี่ปุ่น JR East rail group พัฒนาเครื่องดูดแบบไร้สายที่จะมาช่วยหยิบหูฟังไร้สายแบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยในก่อนหน้านี้เจ้าพนักงานประจำสถานีรถไฟของญี่ปุ่นมักจะใช้เครื่องมือจับในการเก็บวัตถุต่าง ๆ เช่นรองเท้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง แต่เพราะหูฟังไร้สายนั้นมีขนาดเล็กเกินไปจึงทำให้ติดอยู่ในซอกกรวดของรางรถไฟและยากต่อการเก็บคืนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้มีการผลิตเครื่องดูดที่มีท่อขนาดเท่านิ้วคนที่สามารถใช้ดูดตัวหูฟังจากจุดซอกหลืบเล็กต่าง ๆ ได้ จากนั้นก็สามารถถือมันไว้ได้ด้วยเครื่องโดยไม่ถูกดูดเข้าไปในตัวเครื่องดูดแต่อย่างได ขอบคุณข้อมูลจาก : Engadget อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3paYHPF Photo Credit by : TNN Thailand Article Credit by : TNN Thailand […]

“นกแอร์” พร้อมฟื้นฟู! เร่งลดต้นทุน-หารายได้ ขณะนี้นกแอร์เตรียมระดมกำลังพัฒนาแผนฟื้นฟูกิจการและเตรียมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการให้เร็วที่สุดภายในเดือนมกราคม 2564 ตามกำหนด (3 เดือนนับแต่ศาลมีคำสั่ง) โดยหากไม่แล้วเสร็จสามารถยื่นขยายระยะเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน พร้อมบอกว่า ที่ผ่านมาปัญหาหลักของ “นกแอร์” คือ ต้นทุนค่าเช่าเครื่องบิน และค่าซ่อมบำรุงที่มีสัดส่วนกว่า 40% โดยค่าเช่าเครื่องบินของนกแอร์ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานของภาพรวมอุตสาหกรรม และกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้นกแอร์มีต้นทุนสูง และเป็นต้นทุนที่ยากต่อการเจรจาต่อรอง แม้ว่าจะพยายามเปิดการเจรจาขอปรับสัญญากับผู้ให้เช่าเครื่องบินมาโดยตลอด โดยหลังจากนี้ นกแอร์จะเดินหน้าเจรจาแก้ไขสัญญาการเช่าเครื่องบินใหม่ตามลำดับ โดยเชื่อว่าหลังวิกฤตโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบต่อเนื่องทั่วถึงกัน หลายสายการบินจำเป็นต้องถอนตัวออกจากอุตฯ ตลาดจึงกลายเป็นของผู้เช่าเครื่องบิน ซึ่งนกแอร์จะพยายามเลือกทางที่ดีที่สุด พร้อมทั้งยังเตรียมปรับแผนการบินเพื่อสร้างกำไรที่ดีที่สุด เลือกบริการเส้นทางที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ สังคม และสายการบิน โดยมองหาโอกาสขยายเส้นทางบินข้ามภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่-หาดใหญ่ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ฯลฯ รวมถึงยังเตรียมศึกษาแผนการบินระหว่างประเทศในเส้นทางระยะไกลสู่ภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และตะวันออกกลาง อาทิ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฯลฯ พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และผนึกพันธมิตรเพิ่มคุณค่าการบริการ โดยยืนยันว่านกแอร์มีกระแสเงินสดหลักพันล้านบาทเพียงพอสำหรับการขยายเส้นทางและปรับแผนได้อย่างคล่องตัว และปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับฝูงบิน “วุฒิภูมิ” ย้ำด้วยว่า ตอนนี้นกแอร์ให้บริการตามปกติเสมือนเดิมแล้ว โดยปัจจุบันใช้งานเครื่องบิน 22 ลำเต็มฝูงบิน ให้บริการรับส่งผู้โดยสารกว่า 604 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พร้อมอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่เติบโตเป็นลำดับจาก 30% ในช่วงแรก มาจนถึง 70% ในปัจจุบัน และเชื่อว่าอัตราการบรรทุกจะขยับขึ้นเรื่อย ๆ ในไฮซีซั่นนี้ ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและดำเนินการขออนุญาตรับเครื่องบินเข้าสู่ฝูงอีก 2 ลำ ภายในต้นปี 2564 นี้อีกด้วย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2JNYFgo Photo Credit by : Prachachat Article Credit by : Prachachat “นกแอร์” พร้อมฟื้นฟู! เร่งลดต้นทุน-หารายได้bit.lyก้าวสู่การจัดทำแผนฟื้นฟูเป็นสายการบินที่ 2 ของไทยเรียบร้อยสำหรับสายการบิน “นกแอร์” หลังจากที่ศาลล้มละลา….

“นกแอร์” พร้อมฟื้นฟู! เร่งลดต้นทุน-หารายได้ ขณะนี้นกแอร์เตรียมระดมกำลังพัฒนาแผนฟื้นฟูกิจการและเตรียมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการให้เร็วที่สุดภายในเดือนมกราคม 2564 ตามกำหนด (3 เดือนนับแต่ศาลมีคำสั่ง) โดยหากไม่แล้วเสร็จสามารถยื่นขยายระยะเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน พร้อมบอกว่า ที่ผ่านมาปัญหาหลักของ “นกแอร์” คือ ต้นทุนค่าเช่าเครื่องบิน และค่าซ่อมบำรุงที่มีสัดส่วนกว่า 40% โดยค่าเช่าเครื่องบินของนกแอร์ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานของภาพรวมอุตสาหกรรม และกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้นกแอร์มีต้นทุนสูง และเป็นต้นทุนที่ยากต่อการเจรจาต่อรอง แม้ว่าจะพยายามเปิดการเจรจาขอปรับสัญญากับผู้ให้เช่าเครื่องบินมาโดยตลอด โดยหลังจากนี้ นกแอร์จะเดินหน้าเจรจาแก้ไขสัญญาการเช่าเครื่องบินใหม่ตามลำดับ โดยเชื่อว่าหลังวิกฤตโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบต่อเนื่องทั่วถึงกัน หลายสายการบินจำเป็นต้องถอนตัวออกจากอุตฯ ตลาดจึงกลายเป็นของผู้เช่าเครื่องบิน ซึ่งนกแอร์จะพยายามเลือกทางที่ดีที่สุด พร้อมทั้งยังเตรียมปรับแผนการบินเพื่อสร้างกำไรที่ดีที่สุด เลือกบริการเส้นทางที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ สังคม และสายการบิน โดยมองหาโอกาสขยายเส้นทางบินข้ามภูมิภาค อาทิ เชียงใหม่-หาดใหญ่ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ฯลฯ รวมถึงยังเตรียมศึกษาแผนการบินระหว่างประเทศในเส้นทางระยะไกลสู่ภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และตะวันออกกลาง อาทิ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฯลฯ พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และผนึกพันธมิตรเพิ่มคุณค่าการบริการ โดยยืนยันว่านกแอร์มีกระแสเงินสดหลักพันล้านบาทเพียงพอสำหรับการขยายเส้นทางและปรับแผนได้อย่างคล่องตัว และปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับฝูงบิน “วุฒิภูมิ” ย้ำด้วยว่า ตอนนี้นกแอร์ให้บริการตามปกติเสมือนเดิมแล้ว โดยปัจจุบันใช้งานเครื่องบิน […]

ญี่ปุ่น-จีนเปิดรับนักธุรกิจสองฝ่ายเข้าประเทศกลางเดือนนี้ การผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางดังกล่าวจะครอบคลุมถึงนักธุรกิจระยะสั้นและระยะยาว หลังจากที่สองประเทศมีการเจรจากันมาตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อที่จะเปิดพรมแดนระหว่างกัน นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้หารือกันทางโทรศัพท์ครั้งแรกในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันที่จะเจรจากันต่อไปโดยหวังที่จะเร่งเปิดการเดินทางด้านธุรกิจระหว่างสองประเทศ นักธุรกิจที่เดินทางมาจากจีนจะได้รับการยกเว้นจากการกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น หากพวกเขามีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ และยื่นแผนการเดินทางและการทำกิจกรรมต่างๆ ขณะที่พำนักในญี่ปุ่น ส่วนชาวต่างชาติและผู้พักอาศัยระยะยาวอื่นๆ ยังคงจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้เริ่มเปิดประเทศแล้วหลังสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3mZaA9f Photo Credit by : Bangkokbiznews Article Credit by : Bangkokbiznews ญี่ปุ่น-จีนเปิดรับนักธุรกิจสองฝ่ายเข้าประเทศกลางเดือนนี้bit.lyสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นและจีนได้ตกลงกันที่จะเปิดให้นักธุรกิจเข้าประเทศระหว่างกันได้อย่างเร…..

ญี่ปุ่น-จีนเปิดรับนักธุรกิจสองฝ่ายเข้าประเทศกลางเดือนนี้ การผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางดังกล่าวจะครอบคลุมถึงนักธุรกิจระยะสั้นและระยะยาว หลังจากที่สองประเทศมีการเจรจากันมาตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อที่จะเปิดพรมแดนระหว่างกัน นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้หารือกันทางโทรศัพท์ครั้งแรกในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันที่จะเจรจากันต่อไปโดยหวังที่จะเร่งเปิดการเดินทางด้านธุรกิจระหว่างสองประเทศ นักธุรกิจที่เดินทางมาจากจีนจะได้รับการยกเว้นจากการกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น หากพวกเขามีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ และยื่นแผนการเดินทางและการทำกิจกรรมต่างๆ ขณะที่พำนักในญี่ปุ่น ส่วนชาวต่างชาติและผู้พักอาศัยระยะยาวอื่นๆ ยังคงจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้เริ่มเปิดประเทศแล้วหลังสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3mZaA9f Photo Credit by : Bangkokbiznews Article Credit by : Bangkokbiznews สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นและจีนได้ตกลงกันที่จะเปิดให้นักธุรกิจเข้าประเทศระหว่างกันได้อย่างเร….. อ่านต่อบน Facebook

อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พลัส กระตุ้น ‘ต่างชาติ’ เที่ยวหลังกักตัว หลังจากที่รัฐบาลไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างพยายามหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมทั้งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด “การบินไทย” ได้ทยอยเปิดให้บริการเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, โคเปนเฮเกน, ฮ่องกง, โตเกียว, ไทเป, ซิดนีย์ ฯลฯ พร้อมทั้งให้ดีลพิเศษสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศสำหรับหลังการกักตัว ขณะที่สมาคมโรงแรมก็ได้ให้สิทธิพิเศษนักท่องเที่ยวหลังกักตัว ด้วยการให้ที่พักฟรี 1 คืน เมื่ออยู่ครบ 2 คืน สำหรับพักในกรุงเทพฯ และสำหรับการท่องเที่ยวทางบก และพักฟรี 2 คืน เมื่อพัก 3 คืน สำหรับการท่องเที่ยวทางอากาศ (สำหรับโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ) รวมถึงสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ที่ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนวันเดย์ทริป หรือฮาฟเดย์ ซิตี้ทัวร์ เป็นต้น พร้อมผลักดันให้นักท่องเที่ยวกระจายสู่พื้นที่ต่าง ๆ ผ่านโครงการ “Amazing Thailand Plus Package” (อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พลัส) ที่เสนอขายแพ็กเกจหลังกักตัว 14 วัน ในราคาพิเศษ โดยแพ็กเกจดังกล่าวจะเปิดขายให้นักท่องเที่ยวจับจองก่อนการออกเดินทางมาประเทศไทย ในขั้นตอนต่อจากที่นักท่องเที่ยวได้รับวีซ่าและใบรับรองการเข้าประเทศ รวมถึงจองตั๋วโดยสารและจองสถานที่กักกันทางเลือกของรัฐ (ASQ) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางได้ล่วงหน้า และรับสิทธิประโยชย์อย่างเต็มที่หลังการกักตัว 14 วันเสร็จสิ้น รวมถึงจูงใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อจับจ่ายใช้สอยกระจายรายได้ทั่วประเทศ พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลากประเภท อาทิ กลุ่มไกด์ทัวร์ กลุ่มรถเช่า กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ ฯลฯ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3l2VTS0 Photo Credit by : Prachachat Article Credit by : Prachachat อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พลัส กระตุ้น ‘ต่างชาติ’ เที่ยวหลังกักตัวbit.ly05หลังจากที่รัฐบาลไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ในเดือนตุลาคมท….

อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พลัส กระตุ้น ‘ต่างชาติ’ เที่ยวหลังกักตัว หลังจากที่รัฐบาลไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างพยายามหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมทั้งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด “การบินไทย” ได้ทยอยเปิดให้บริการเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, โคเปนเฮเกน, ฮ่องกง, โตเกียว, ไทเป, ซิดนีย์ ฯลฯ พร้อมทั้งให้ดีลพิเศษสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศสำหรับหลังการกักตัว ขณะที่สมาคมโรงแรมก็ได้ให้สิทธิพิเศษนักท่องเที่ยวหลังกักตัว ด้วยการให้ที่พักฟรี 1 คืน เมื่ออยู่ครบ 2 คืน สำหรับพักในกรุงเทพฯ และสำหรับการท่องเที่ยวทางบก และพักฟรี 2 คืน เมื่อพัก 3 คืน สำหรับการท่องเที่ยวทางอากาศ (สำหรับโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ) รวมถึงสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ที่ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนวันเดย์ทริป หรือฮาฟเดย์ ซิตี้ทัวร์ เป็นต้น พร้อมผลักดันให้นักท่องเที่ยวกระจายสู่พื้นที่ต่าง ๆ ผ่านโครงการ “Amazing Thailand Plus Package” […]

ยักษ์คมนาคม สายการบินใหญ่ของญี่ปุ่นทั้ง JAL และ ANA รวมถึงบริษัทรถไฟของญี่ปุ่น ล้วนคาดการณ์ผลขาดทุนมากเป็นประวัติศาสตร์ จากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด เจแปน แอร์ไลน์ หรือ JAL ประกาศคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีว่า จะขาดทุนมากถึง 240,000 ถึง 270,000 ล้านเยนในปีงบประมาณนี้ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี 2564 โดยระบุว่า ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอยู่ในสภาพที่ยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะหลายประเทศยังไม่มีสัญญาณว่าการระบาดของโควิดจะลดลง ทำให้ยากที่จะคาดว่าการเดินทางระหว่างประเทศจะฟื้นตัว JAL ระบุว่าเดือนเมษายนถึงกันยายน ขาดทุนสุทธิมากถึง 161,000 ล้านเยน ยอดขายลดลงมากถึงร้อยละ 74 ทั้งๆ ที่ในปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทมีผลกำไร 54,200 ล้านเยน ถึงแม้การเดินทางในญี่ปุ่นจะทยอยฟื้นตัว แต่ยังต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะคืนสู่ภาวะปกติ JAL สายการบินใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นจะงดการจ้างงานใหม่ทั้งหมดในปีหน้า แต่สถานการณ์ยังดีกว่า ออล นิปปอน แอร์เวยส์ หรือ ANA สายการบินใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่กำลังระดมเงินกู้เพื่มเติมเพื่อรับมือวิกฤตโควิด บริษัทการรถไฟแห่งญี่ปุ่นภาคตะวันออก หรือ เจอาร์ อีสต์ ที่รับผิดชอบการเดินรถในพื้นที่กรุงโตเกียวและโดยรอบ ก็ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างหนักหน่วง ประสบภาวะขาดทุนกลางปีเป็นครั้งแรก โดยขาดทุนสุทธิ 264,000 ล้านเยน หรือราว 79,000 ล้านบาทในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน การขาดทุนดังกล่าวถือเป็นการขาดทุนครั้งแรกของทางบริษัท และยังคาดว่ายอดขาดทุนสุทธิสำหรับปีงบประมาณนี้จะสูงกว่า 400,000 ล้านเยน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3epmlD3 Photo Credit by : MGR Online Article Credit by : MGR Online

ยักษ์คมนาคม สายการบินใหญ่ของญี่ปุ่นทั้ง JAL และ ANA รวมถึงบริษัทรถไฟของญี่ปุ่น ล้วนคาดการณ์ผลขาดทุนมากเป็นประวัติศาสตร์ จากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด เจแปน แอร์ไลน์ หรือ JAL ประกาศคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีว่า จะขาดทุนมากถึง 240,000 ถึง 270,000 ล้านเยนในปีงบประมาณนี้ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี 2564 โดยระบุว่า ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอยู่ในสภาพที่ยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะหลายประเทศยังไม่มีสัญญาณว่าการระบาดของโควิดจะลดลง ทำให้ยากที่จะคาดว่าการเดินทางระหว่างประเทศจะฟื้นตัว JAL ระบุว่าเดือนเมษายนถึงกันยายน ขาดทุนสุทธิมากถึง 161,000 ล้านเยน ยอดขายลดลงมากถึงร้อยละ 74 ทั้งๆ ที่ในปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทมีผลกำไร 54,200 ล้านเยน ถึงแม้การเดินทางในญี่ปุ่นจะทยอยฟื้นตัว แต่ยังต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะคืนสู่ภาวะปกติ JAL สายการบินใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นจะงดการจ้างงานใหม่ทั้งหมดในปีหน้า แต่สถานการณ์ยังดีกว่า ออล นิปปอน แอร์เวยส์ หรือ ANA สายการบินใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่กำลังระดมเงินกู้เพื่มเติมเพื่อรับมือวิกฤตโควิด บริษัทการรถไฟแห่งญี่ปุ่นภาคตะวันออก หรือ เจอาร์ อีสต์ […]

“ดุสิตธานี” รุกขยายแบรนด์สู่ญี่ปุ่น จับมือ “ยาสุดะเรียลเอสเตท” บริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต คาดเมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญอีกครั้งเมื่อนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ปกติ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีได้ลงนามในสัญญาบริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียวโดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน โดยข้อตกลงครั้งนี้ทำให้ดุสิตธานี กลายเป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองเกียวโต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิต ในการขยายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ “การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี โดยเชื่อว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเดิมหลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน นอกจากนั้น เกียวโตยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม” นางศุภจีกล่าว และว่า สำหรับโรงแรมดุสิตธานีเกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีแผนเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2566 อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/329UaTt Photo Credit by : @prachachat Article Credit by : @prachachat

“ดุสิตธานี” รุกขยายแบรนด์สู่ญี่ปุ่น จับมือ “ยาสุดะเรียลเอสเตท” บริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต คาดเมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญอีกครั้งเมื่อนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ปกติ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีได้ลงนามในสัญญาบริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียวโดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน โดยข้อตกลงครั้งนี้ทำให้ดุสิตธานี กลายเป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองเกียวโต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิต ในการขยายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ “การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี โดยเชื่อว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเดิมหลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน นอกจากนั้น เกียวโตยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม” นางศุภจีกล่าว และว่า สำหรับโรงแรมดุสิตธานีเกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง […]

1 361 362 363 364 365 797
Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์