#ChangTrixget : 😷หน้ากากอนามัย 3D Mask นำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาเพียง 73 บาท 😷หน้ากากอนามัยใครหมดแล้ว มาซื้อตุนกันไว้เลย แบรนด์คุณภาพ 3D Mask นำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาเพียง 73 บาท —————————— #Travel #Shopping #Dining #Hotel #Promotion #News #Ticket #ตั๋วถูก #ทางลัด #โปรโมชั่น #ตั๋วเครื่องบิน #ส่วนลด #โรงแรม #ตั๋วโปร ———————————- ค้นหาโรงแรม : http://bit.ly/31It7wd App เช่ารถราคาประหยัด >> www.drivemate.asia#สายช้อป : หน้ากากอนามัย 3D MASK นำเข้าจากญี่ปุ่น ป้องกันเชื้อโรค กันฝุ่น PM 2.5 ได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 73 บาท 😷Unicharm Super Space Mask 3D Mask แท้ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น✔ 3 D Mask ตัวนี้มี filter ที่สามารถป้องกันไวรัสและฝุ่นขนาดเล็ก 0.1 um 1.0 um ฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99% 😷Size M : https://bit.ly/3dtcKdP 😷Size L : https://bit.ly/3j2WWzA 😷Boy : https://bit.ly/3lKTtHM __________________________________________ #ShoppingGURU #Shopping #Promotion #3DMask

#ChangTrixget : 😷หน้ากากอนามัย 3D Mask นำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาเพียง 73 บาท 😷หน้ากากอนามัยใครหมดแล้ว มาซื้อตุนกันไว้เลย แบรนด์คุณภาพ 3D Mask นำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาเพียง 73 บาท —————————— #Travel #Shopping #Dining #Hotel #Promotion #News #Ticket #ตั๋วถูก #ทางลัด #โปรโมชั่น #ตั๋วเครื่องบิน #ส่วนลด #โรงแรม #ตั๋วโปร ———————————- ค้นหาโรงแรม : http://bit.ly/31It7wd App เช่ารถราคาประหยัด >> www.drivemate.asia #สายช้อป : หน้ากากอนามัย 3D MASK นำเข้าจากญี่ปุ่น ป้องกันเชื้อโรค กันฝุ่น PM 2.5 ได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 73 บาท […]

มาแล้ว “โรบอทคาเฟ่” บาริสต้าหุ่นยนต์ ถือเป็นนวัตกรรมการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาสร้างไลฟ์สไตล์แนวใหม่ของไทย เผยโฉมหุ่นยนต์ชงกาแฟ Robosta café ของบริษัทคนไทย Brainworks โดยปักหมุดแรกในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมงานชนิดแน่นบูธ ที่สำคัญ บริษัทมีแผนเจรจาธุรกิจกับร้านกาแฟแบรนด์ดังที่เตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์ Robot Barista ในปลายปีนี้ด้วย แน่นอนว่า ในต่างประเทศ อย่างสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี นำหุ่นยนต์บาริสต้ามาสร้างสีสันได้ระยะหนึ่งแล้ว จนเกิดกระแส 2 ด้าน ด้านหนึ่งถือเป็นนวัตกรรมการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ แต่อีกด้านหนึ่งสะท้อนความหวั่นวิตกเรื่องการแย่งงานของมนุษย์ ตัว Robosta café ใช้หุ่นยนต์ มือหุ่นยนต์ ซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน เครื่องทำน้ำแข็งจากประเทศญี่ปุ่น และเครื่องทำกาแฟจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกันเขียนซอฟต์แวร์โดยคนไทย ซึ่งการขยายมาจับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพราะเป็น Pain Point เหมือนกันทุกธุรกิจ คือ เรื่องคน จากอดีต หุ่นยนต์ถูกใช้แทนมนุษย์ในงานอันตราย งานที่ต้องเสี่ยงกับความร้อนสูง หรือความเร็ว แต่ตอนนี้หลายๆ ธุรกิจเริ่มเจอปัญหาแรงงานขาดแคลนมากขึ้น “อย่างจีนมีประชากรจำนวนมากแต่ไม่อยากทำอาชีพบริการ ต้องถามผู้ประกอบการไทยประสบปัญหาอะไร ปัญหาใหญ่ คือ พนักงานเข้าออกตลอดเวลา ร้านหนึ่งมีพนักงาน 5 คน หายไป 3 คน อีก 2 คนจะตามไป เพราะคนเลือกงานมากขึ้น ไม่ใช่ไม่มีงานทำ แต่เกิดมาไม่ได้อยากทำอาชีพบริการ ซึ่งร้านกาแฟในปัจจุบันประสบปัญหามากและร้านที่เปิดจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นบาริสต้าลงทุนเปิดร้าน เขาทำคนเดียวได้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อขยายร้าน เพิ่มสาขา มีลูกจ้างจะเริ่มประสบปัญหาเรื่องคนทันที” ตรงนี้เองทำให้เบรนเวิร์คส์มั่นใจว่า บาริสต้าหุ่นยนต์เป็นโมเดลที่สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการและไม่ใช่เฉพาะปัญหาคน แต่ยังสร้างสีสันดึงดูดลูกค้า มาตรฐานการชงเครื่องดื่มทุกเมนู และสอดรับกับพฤติกรรมเว้นระยะห่างในยุคโควิดที่ยังหวั่นวิตกเรื่องการแพร่ระบาดรอบสองด้วย ดังนั้น ต้องยอมรับว่า หุ่นยนต์บาริสต้าเป็นจุดขายใหม่ที่สามารถกระตุ้นการเติบโตของตลาดกาแฟไทย โดยเฉพาะในช่วงโควิดแพร่ระบาด ซึ่งกลุ่มร้านอาหารและร้านกาแฟต่างปรับกลยุทธ์เน้นช่องทางออนไลน์ การจัดส่งตรงถึงผู้ซื้อ ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นกาแฟพร้อมดื่ม แนะนำให้ความรู้ สอนการปรุงกาแฟในรูปแบบออนไลน์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างความต้องการแก่ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/315784K Photo Credit by : Suporn Sae-tang, MANAGER 360 Article Credit by : Suporn Sae-tang, MANAGER 360

มาแล้ว “โรบอทคาเฟ่” บาริสต้าหุ่นยนต์ ถือเป็นนวัตกรรมการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาสร้างไลฟ์สไตล์แนวใหม่ของไทย เผยโฉมหุ่นยนต์ชงกาแฟ Robosta café ของบริษัทคนไทย Brainworks โดยปักหมุดแรกในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมงานชนิดแน่นบูธ ที่สำคัญ บริษัทมีแผนเจรจาธุรกิจกับร้านกาแฟแบรนด์ดังที่เตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์ Robot Barista ในปลายปีนี้ด้วย แน่นอนว่า ในต่างประเทศ อย่างสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี นำหุ่นยนต์บาริสต้ามาสร้างสีสันได้ระยะหนึ่งแล้ว จนเกิดกระแส 2 ด้าน ด้านหนึ่งถือเป็นนวัตกรรมการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ แต่อีกด้านหนึ่งสะท้อนความหวั่นวิตกเรื่องการแย่งงานของมนุษย์ ตัว Robosta café ใช้หุ่นยนต์ มือหุ่นยนต์ ซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน เครื่องทำน้ำแข็งจากประเทศญี่ปุ่น และเครื่องทำกาแฟจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกันเขียนซอฟต์แวร์โดยคนไทย ซึ่งการขยายมาจับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพราะเป็น Pain Point เหมือนกันทุกธุรกิจ คือ เรื่องคน จากอดีต หุ่นยนต์ถูกใช้แทนมนุษย์ในงานอันตราย งานที่ต้องเสี่ยงกับความร้อนสูง […]

ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น หันมาขาย “ถุงน่อง” ตามคำเรียกร้องสาวๆ ผู้ผลิตถุงน่องของญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายถุงน่องผ่านทางตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หลังจากหญิงสาวหลายรายบอกว่าต้องเปลี่ยนถุงน่องที่ขาดระหว่างวัน ถุงน่อง “ซาบรีนา” วางจำหน่ายคู่กันเครื่องดื่มต่างๆ ในตู้อัตโนมัติในราคา 500 เยน (ราว 150 บาท) โดยเป็นความร่วมมือของบริษัทกุนซ่า ผู้ผลิตถุงน่อง กับ Dydo Drinco Inc. เจ้าของตู้ขายเครื่องดื่มรายสำคัญ ถุงน่องที่จำหน่ายผ่านตู้อัตโนมัติมี 2 แบบ และปรับบรรจุภัณฑ์ให้ใช้สะดวกขึ้นกว่าที่จำหน่ายในร้านค้า ผลการสำรวจพบว่า ผู้หญิงในวัย 20-60 ปี ราว 74.9% ที่สุ่มสำรวจบอกว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถุงน่องที่ขาดกะทันหัน และผู้หญิงมากกว่า 90% บอกว่าจะเปลี่ยนถุงน่องทันทีแม้จะมีรอยขาดเพียงเล็กน้อย ถุงน่อง “ซาบรีนา” ทดลองวางจำหน่ายผ่านตู้อัตโนมัติที่สำนักงานใหญ่ของบริษัที่เมืองโอซากา และอีกหลายสถานที่ และทางบริษัทมีแผนจะขยายช่องทางการจำหน่ายถุงน่องผ่านตู้อัตโนมัตินี้ไปทั่วญี่ปุ่น ในพื้นที่ย่านสำนักงานที่มีหญิงสาวทำงาน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3jSL2tr Photo Credit by : Positioningmag Article Credit by : Positioningmag ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น หันมาขาย “ถุงน่อง” ตามคำเรียกร้องสาวๆbit.lyผู้ผลิตถุงน่องของญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายถุงน่องผ่านทางตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หลังจากหญิงสาวหลายรายบอ…..

ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น หันมาขาย “ถุงน่อง” ตามคำเรียกร้องสาวๆ ผู้ผลิตถุงน่องของญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายถุงน่องผ่านทางตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หลังจากหญิงสาวหลายรายบอกว่าต้องเปลี่ยนถุงน่องที่ขาดระหว่างวัน ถุงน่อง “ซาบรีนา” วางจำหน่ายคู่กันเครื่องดื่มต่างๆ ในตู้อัตโนมัติในราคา 500 เยน (ราว 150 บาท) โดยเป็นความร่วมมือของบริษัทกุนซ่า ผู้ผลิตถุงน่อง กับ Dydo Drinco Inc. เจ้าของตู้ขายเครื่องดื่มรายสำคัญ ถุงน่องที่จำหน่ายผ่านตู้อัตโนมัติมี 2 แบบ และปรับบรรจุภัณฑ์ให้ใช้สะดวกขึ้นกว่าที่จำหน่ายในร้านค้า ผลการสำรวจพบว่า ผู้หญิงในวัย 20-60 ปี ราว 74.9% ที่สุ่มสำรวจบอกว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถุงน่องที่ขาดกะทันหัน และผู้หญิงมากกว่า 90% บอกว่าจะเปลี่ยนถุงน่องทันทีแม้จะมีรอยขาดเพียงเล็กน้อย ถุงน่อง “ซาบรีนา” ทดลองวางจำหน่ายผ่านตู้อัตโนมัติที่สำนักงานใหญ่ของบริษัที่เมืองโอซากา และอีกหลายสถานที่ และทางบริษัทมีแผนจะขยายช่องทางการจำหน่ายถุงน่องผ่านตู้อัตโนมัตินี้ไปทั่วญี่ปุ่น ในพื้นที่ย่านสำนักงานที่มีหญิงสาวทำงาน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3jSL2tr Photo Credit by : Positioningmag Article Credit by […]

พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19 เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ ซึ่งทำการศึกษาโดยใช้ข้อมูลพิเศษจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาพลิกโฉมการจัดอันดับการเดินทางทั่วโลกที่ดูเหมือนจะไม่สั่นคลอนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และยังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นอีกมาก รายงานฉบับล่าสุดของ เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ บ่งชี้ว่า พาสปอร์ตของสหรัฐ ซึ่งเคยติดอันดับ 6 ในการจัดอันดับนี้ ด้วยจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า 185 แห่งในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีจุดหมายปลายทางเหลือเพียงไม่ถึง 75 แห่งเท่านั้นที่ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ ซึ่งนับว่าเป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยที่ผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างอิสระมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก แต่ภายใต้ข้อกำหนดการเดินทางในขณะนี้ ชาวสิงคโปร์สามารถเดินทางไปได้เพียงไม่ถึง 80 ประเทศเท่านั้น เช่นเดียวกับบราซิล ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเคยมีถึง 170 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 70 แห่งเท่านั้น ข้อมูลในรายงานระบุว่า แม้ยังมีประเทศบางประเทศ เช่น อินเดียและรัสเซียที่อิทธิพลและความคล่องตัวของพาสปอร์ตลดลงน้อยมาก แต่ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นมาให้เห็น โดยก่อนโควิด-19 ระบาด จุดหมายปลายทางที่พลเมืองรัสเซียสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่ามีทั้งสิ้น 119 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 50 แห่ง ขณะที่อินเดีย ซึ่งเคยมีจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าไปโดยไม่ต้องมีวีซ่าอยู่ที่ 61 แห่งเมื่อต้นปี แต่เนื่องจากข้อกำหนดการเดินทางเพื่อคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงไม่ถึง 30 แห่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมมาตรการแบนและจำกัดการเดินทางอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นยังคงติดอันดับ 1 ในดัชนีพาสต์ปอร์ตนี้ ด้วยคะแนนด้าน visa-free/visa-on-arrival สูงถึง 191 คะแนน ตามด้วยสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 190 คะแนน ขณะที่เยอรมนีและเกาหลีใต้ ครองอันดับที่ 3 ร่วมกันโดยมีคะแนน 189 คะแนน อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3706hG9 Photo Credit by : Bangkokbiznews Article Credit by : Bangkokbiznews พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19bit.lyพาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19 ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ เป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลมากสุดเป….

พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคโควิด-19 เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ ซึ่งทำการศึกษาโดยใช้ข้อมูลพิเศษจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาพลิกโฉมการจัดอันดับการเดินทางทั่วโลกที่ดูเหมือนจะไม่สั่นคลอนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และยังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นอีกมาก รายงานฉบับล่าสุดของ เฮนรี พาสปอร์ต อินเด็กซ์ บ่งชี้ว่า พาสปอร์ตของสหรัฐ ซึ่งเคยติดอันดับ 6 ในการจัดอันดับนี้ ด้วยจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า 185 แห่งในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีจุดหมายปลายทางเหลือเพียงไม่ถึง 75 แห่งเท่านั้นที่ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ขณะที่พาสปอร์ตสิงคโปร์ ซึ่งนับว่าเป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยที่ผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศได้อย่างอิสระมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก แต่ภายใต้ข้อกำหนดการเดินทางในขณะนี้ ชาวสิงคโปร์สามารถเดินทางไปได้เพียงไม่ถึง 80 ประเทศเท่านั้น เช่นเดียวกับบราซิล ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเคยมีถึง 170 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 70 แห่งเท่านั้น ข้อมูลในรายงานระบุว่า แม้ยังมีประเทศบางประเทศ เช่น อินเดียและรัสเซียที่อิทธิพลและความคล่องตัวของพาสปอร์ตลดลงน้อยมาก แต่ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นมาให้เห็น โดยก่อนโควิด-19 ระบาด จุดหมายปลายทางที่พลเมืองรัสเซียสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องมีวีซ่ามีทั้งสิ้น 119 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 50 […]

📆อัปเดตยอดประจำวันที่ 14 ตุลาคม 63 ยอดรวม 3,652 ราย วันนี้ติดเชื้อ😷เพิ่ม 9 ราย* และมีเสียชีวิต😭เพิ่ม 0 ราย *เป็นผู้ป่วยใน State Quarantine เดินทางมาจาก 🇮🇳 อินเดีย 2 ราย 🇯🇵 ญี่ปุ่น 1 ราย 🇸🇸 ซูดานใต้ 3 ราย 🇦🇪 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย 😋 [รักษาหายแล้ว 3,457 ราย] 😰 [เสียชีวิตรวม 59 ราย] 📱ข้อมูลจาก http://covid19.th-stat.com และ https://covid19.moph.go.th/ #เพื่อนบอกโปร #เพื่อนบอกข่าว

📆อัปเดตยอดประจำวันที่ 14 ตุลาคม 63 ยอดรวม 3,652 ราย วันนี้ติดเชื้อ😷เพิ่ม 9 ราย* และมีเสียชีวิต😭เพิ่ม 0 ราย *เป็นผู้ป่วยใน State Quarantine เดินทางมาจาก 🇮🇳 อินเดีย 2 ราย 🇯🇵 ญี่ปุ่น 1 ราย 🇸🇸 ซูดานใต้ 3 ราย 🇦🇪 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย 😋 [รักษาหายแล้ว 3,457 ราย] 😰 [เสียชีวิตรวม 59 ราย] 📱ข้อมูลจาก http://covid19.th-stat.com และ https://covid19.moph.go.th/ #เพื่อนบอกโปร #เพื่อนบอกข่าว อ่านต่อบน Facebook

สินค้าแนะนำ !! แฮนด์ครีมสูตรพิเศษจากญี่ปุ่น เหมือนรวมเจลแอลกอฮอลล์ และ แฮนด์ครีมในหลอดเดียว ราคาหลอดละ 339 บาท เท่านั้น (ขนาด 60 กรัม) ออกฤทธิ์ ป้องกัน และฆ่าเชื้อได้นานถึง 4 ชั่วโมง และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่อ่อนโยนต่อผิวคุณ สินค้า Made in japan พร้อมส่งค่ะ สั่งได้เลยใน Inbox หรือ โทร 02-612-8500 และ Line Official >> https://lin.ee/mTbmrjt สินค้าคุณภาพจากญี่ปุ่น จัดจำหน่ายโดย สยามออเชิร์ดกรุ๊ป จำกัดPhotos from SiamOrchardGroup’s post

สินค้าแนะนำ !! แฮนด์ครีมสูตรพิเศษจากญี่ปุ่น เหมือนรวมเจลแอลกอฮอลล์ และ แฮนด์ครีมในหลอดเดียว ราคาหลอดละ 339 บาท เท่านั้น (ขนาด 60 กรัม) ออกฤทธิ์ ป้องกัน และฆ่าเชื้อได้นานถึง 4 ชั่วโมง และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่อ่อนโยนต่อผิวคุณ สินค้า Made in japan พร้อมส่งค่ะ สั่งได้เลยใน Inbox หรือ โทร 02-612-8500 และ Line Official >> https://lin.ee/mTbmrjt สินค้าคุณภาพจากญี่ปุ่น จัดจำหน่ายโดย สยามออเชิร์ดกรุ๊ป จำกัด อ่านต่อบน Facebook

ศบค.เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 9 ราย มาจากต่างประเทศ วันนี้ (14 ต.ค. 63) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 9 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (Quarantine Facilities) ประกอบด้วย อินเดีย 2 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย ซูดานใต้ 3 ราย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,652 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 714 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 0 ราย รวมเป็น 3,457 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 136 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/374YZ3J Photo Credit by : TNN thailand Article Credit by : TNN thailand ศบค.เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 9 ราย มาจากต่างประเทศbit.lyศบค.เผย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9 ราย มาจากต่างประเทศ ผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,652 ราย

ศบค.เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 9 ราย มาจากต่างประเทศ วันนี้ (14 ต.ค. 63) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 9 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (Quarantine Facilities) ประกอบด้วย อินเดีย 2 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย ซูดานใต้ 3 ราย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,652 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 714 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 0 ราย รวมเป็น 3,457 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 136 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย อ่านรายละเอียด […]

รัฐบาลมาเลเซียอนุมัติเงินกู้ 7.5 พันล้าน อุ้ม “แอร์เอเชีย” สู้วิกฤตโควิด สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รีวิว รายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียได้อนุมัติเงินกู้มูลค่า 1 พันล้านริงกิต (7.5 พันล้านบาท) ให้กับสายการบินแอร์เอเชียตามนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ หลังได้รับผลกระทบไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามปกติช่วงโรคโควิด-19 ระบาดได้ โดยเงินกู้ก้อนนี้เป็นการสนับสนุนของธนาคารท้องถิ่น ภายใต้นโยบายของรัฐที่คอยช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ของมาเลเซียในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด แหล่งข่าวรายงานว่า เงินกู้มูลค่า 1 พันล้านริงกิตนี้สำคัญกับแอร์เอเชียมาก ซึ่งทางสายการบินสามารถนำไปจ่ายหนี้ระยะสั้นและเอาเงินมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อได้ หลังจากมีรายงานว่าแอร์เอเชียกำลังมีแผนจะเลิกจ้างพนักงานอีกรอบ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลมาเลเซียไม่ได้มีนโยบายสนับสนุนสายการบิน “มาเลเซีย แอร์ไลน์” หลังจากล่าสุดได้ให้เงินสนับสนุนไป 1.5 พันล้านริงกิต (1.1 หมื่นล้านบาท) ช่วงที่เครื่องบินประสบอุบัติเหตุปี 2014 แต่ตอนนี้ทางรัฐบาลยังไม่มีแผนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม ของสายการบินประเทศตัวเองในวิกฤตครั้งนี้ ทั้งนี้แอร์เอเชียก็ประสบปัญหาไม่ต่างกับสายการบินทั่วโลก ต้องรับมือกับผลกระทบโรคโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 10% และกำลังมีแผนการที่จะลดจำนวนเครื่องบิน เพิ่มเติมจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่แอร์เอเชียเพิ่งประกาศยุติกิจการแอร์เอเชียที่ประเทศญี่ปุ่น อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2H4uaBh Photo Credit by : Prachachat Article Credit by : Prachachat รัฐบาลมาเลเซียอนุมัติเงินกู้ 7.5 พันล้าน อุ้ม “แอร์เอเชีย” สู้วิกฤตโควิดbit.lyรัฐบาลมาเลเซียอนุมัติเงินกู้ 1 ล้านริงกิต ให้กับสายการบินแอร์เอเชีย ขณะที่บริษัทมีแผนลดขนาดฝูงบิน หลังเพ…

รัฐบาลมาเลเซียอนุมัติเงินกู้ 7.5 พันล้าน อุ้ม “แอร์เอเชีย” สู้วิกฤตโควิด สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รีวิว รายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียได้อนุมัติเงินกู้มูลค่า 1 พันล้านริงกิต (7.5 พันล้านบาท) ให้กับสายการบินแอร์เอเชียตามนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ หลังได้รับผลกระทบไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามปกติช่วงโรคโควิด-19 ระบาดได้ โดยเงินกู้ก้อนนี้เป็นการสนับสนุนของธนาคารท้องถิ่น ภายใต้นโยบายของรัฐที่คอยช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ของมาเลเซียในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด แหล่งข่าวรายงานว่า เงินกู้มูลค่า 1 พันล้านริงกิตนี้สำคัญกับแอร์เอเชียมาก ซึ่งทางสายการบินสามารถนำไปจ่ายหนี้ระยะสั้นและเอาเงินมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อได้ หลังจากมีรายงานว่าแอร์เอเชียกำลังมีแผนจะเลิกจ้างพนักงานอีกรอบ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลมาเลเซียไม่ได้มีนโยบายสนับสนุนสายการบิน “มาเลเซีย แอร์ไลน์” หลังจากล่าสุดได้ให้เงินสนับสนุนไป 1.5 พันล้านริงกิต (1.1 หมื่นล้านบาท) ช่วงที่เครื่องบินประสบอุบัติเหตุปี 2014 แต่ตอนนี้ทางรัฐบาลยังไม่มีแผนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม ของสายการบินประเทศตัวเองในวิกฤตครั้งนี้ ทั้งนี้แอร์เอเชียก็ประสบปัญหาไม่ต่างกับสายการบินทั่วโลก ต้องรับมือกับผลกระทบโรคโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 10% และกำลังมีแผนการที่จะลดจำนวนเครื่องบิน เพิ่มเติมจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่แอร์เอเชียเพิ่งประกาศยุติกิจการแอร์เอเชียที่ประเทศญี่ปุ่น อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2H4uaBh Photo Credit by […]

เผยความลับใต้ดินที่ทำให้โตเกียวน้ำไม่ท่วม อ่างเก็บน้ำคาซึคาเบะ เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินของญี่ปุ่นซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นวิหารพาร์เธนอนญี่ปุ่น ทำหน้าที่ป้องกันโตเกียวและพื้นที่โดยรอบจากภัยพิบัติน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำดังกล่าวมีความลึก 72.1 เมตร สร้างขึ้นในปี 2006 ด้วยมูลค่า 230,000 ล้านเยน เชื่อมต่อกับอุโมงค์ 6.3 กิโลเมตร เสาทะยานมีน้ำหนัก 500 ตันแต่ละต้นรองรับอ่างเก็บน้ำหลัก ถังคอนกรีตเปลือยคาวมยาว 2 สนามฟุตบอล บริเวณอ่างเก็บน้ำมีช่องทางเปลี่ยนเส้นทางน้ำส่วนเกินจากพายุและไต้ฝุ่น และสามารถปล่อยน้ำสะสมลงสู่แม่น้ำเอโดกาวะที่อยู่ใกล้เคียงในอัตราเทียบเท่าการปล่อยน้ำในสระว่ายน้ำ 25 เมตร ทุกวินาทีด้วยเครื่องยนต์จัมโบ้เจ็ท ซึ่งน้ำส่วนเกินจะไหลโดยอัตโนมัติและผู้ปฏิบัติงานจะทำการสูบน้ำออจากถังหลักเมื่อเข้าใกล้ความจุ โนบุยูกิ อากิยามะ หัวหน้าไซต์งานกล่าวว่า “ในพื้นที่นี้ฝนกระหน่ำพายุไต้ฝุ่นและแม้กระทั่งฝนตกทุกวันอาจทำให้เกิดความเสียหายได้เนื่องจากบ้านเรือนและถนนจมอยู่ใต้น้ำ อ่างเก็บน้ำดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายจากน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์” โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฤดูฝนและพายุไต้ฝุ่นเข้าทำลายญี่ปุ่นหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 80 คน และเมื่อปีที่แล้วพายุไต้ฝุ่นคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 100 คน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจำนวนพายุไต้ฝุ่นต่อปีที่คุกคามโตเกียวเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา โตเกียวมีเมืองที่ตัดผ่านแม่น้ำมากกว่า 100 แห่ง มีอ่างเก็บน้ำใต้ดินอีก 10 แห่งและอุโมงค์ระบายน้ำใต้ดิน 3 แห่ง รวมถึงโครงสร้างป้องกันน้ำท่วมอื่นๆ โดยระบบป้องกันน้ำท่วมของญี่ปุ่นถือเป็นระบบระดับโลกซึ่งได้บทเรียนมาจากภัยพิบัติครั้งใหญ่หลายครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไค โยชิมูระ ศาสตราจารย์ด้านอุตุนิยมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวและผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำท่วมกล่าวว่าญี่ปุ่นมีสภาพอากาศที่มีน้ำท่วมและฝนตกหนักบ่อยครั้งแต่ยิ่งไปกว่านั้นคือภาวะโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรง ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำคาซึคาเบะ ถูกใช้งานไปแล้ว 7 ครั้งในปีนี้ โดยในเดือนกันยายนมีการปล่อยน้ำ 2 ครั้งจากฤดูฝนที่ยาวนานผิดปกติ นอกจากนี้ะยังได้เปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมในช่วงที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการจัดการภัยพิบัติ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3nK7irP Photo Credit by : Posttoday Article Credit by : Posttoday เผยความลับใต้ดินที่ทำให้โตเกียวน้ำไม่ท่วมbit.ly’อ่างเก็บน้ำคาซึคาเบะ’ ได้รับฉายาว่าวิหารพาร์เธนอนใต้ดินของญี่ปุ่นเพราะความใหญ่โตเหมือนวิหารกรีกโบ…..

เผยความลับใต้ดินที่ทำให้โตเกียวน้ำไม่ท่วม อ่างเก็บน้ำคาซึคาเบะ เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินของญี่ปุ่นซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นวิหารพาร์เธนอนญี่ปุ่น ทำหน้าที่ป้องกันโตเกียวและพื้นที่โดยรอบจากภัยพิบัติน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำดังกล่าวมีความลึก 72.1 เมตร สร้างขึ้นในปี 2006 ด้วยมูลค่า 230,000 ล้านเยน เชื่อมต่อกับอุโมงค์ 6.3 กิโลเมตร เสาทะยานมีน้ำหนัก 500 ตันแต่ละต้นรองรับอ่างเก็บน้ำหลัก ถังคอนกรีตเปลือยคาวมยาว 2 สนามฟุตบอล บริเวณอ่างเก็บน้ำมีช่องทางเปลี่ยนเส้นทางน้ำส่วนเกินจากพายุและไต้ฝุ่น และสามารถปล่อยน้ำสะสมลงสู่แม่น้ำเอโดกาวะที่อยู่ใกล้เคียงในอัตราเทียบเท่าการปล่อยน้ำในสระว่ายน้ำ 25 เมตร ทุกวินาทีด้วยเครื่องยนต์จัมโบ้เจ็ท ซึ่งน้ำส่วนเกินจะไหลโดยอัตโนมัติและผู้ปฏิบัติงานจะทำการสูบน้ำออจากถังหลักเมื่อเข้าใกล้ความจุ โนบุยูกิ อากิยามะ หัวหน้าไซต์งานกล่าวว่า “ในพื้นที่นี้ฝนกระหน่ำพายุไต้ฝุ่นและแม้กระทั่งฝนตกทุกวันอาจทำให้เกิดความเสียหายได้เนื่องจากบ้านเรือนและถนนจมอยู่ใต้น้ำ อ่างเก็บน้ำดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายจากน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์” โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฤดูฝนและพายุไต้ฝุ่นเข้าทำลายญี่ปุ่นหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 80 คน และเมื่อปีที่แล้วพายุไต้ฝุ่นคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 100 คน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจำนวนพายุไต้ฝุ่นต่อปีที่คุกคามโตเกียวเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา โตเกียวมีเมืองที่ตัดผ่านแม่น้ำมากกว่า 100 แห่ง มีอ่างเก็บน้ำใต้ดินอีก 10 แห่งและอุโมงค์ระบายน้ำใต้ดิน 3 แห่ง รวมถึงโครงสร้างป้องกันน้ำท่วมอื่นๆ โดยระบบป้องกันน้ำท่วมของญี่ปุ่นถือเป็นระบบระดับโลกซึ่งได้บทเรียนมาจากภัยพิบัติครั้งใหญ่หลายครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 […]

ยอดเยี่ยม!! แกงมัสมั่นไทยเจ๋ง ครองแชมป์เมนูอร่อยที่สุดในโลก จัดอันดับโดย cnn travel เว็บไซต์ cnn.com จัดอันดับ 50 เมนูอร่อยทั่วโลก โดยยกแกงมัสมั่นของประเทศไทยอร่อยเป็นอันดับที่ 1 ขณะที่ “ส้มตำไทย” และ “ต้มยำกุ้ง” ก็ติดโผด้วย บทความเว็บไซต์ cnn travel เรื่อง 50 อาหารที่ดีที่สุดในโลกในปี 2020 ได้จัดอันดับให้แกงมัสมั่นของไทยมาเป็นอันดับ 1 โดยกล่าวว่า “มัสมั่น” ถือเป็นราชาแห่งแกงกะหรี่และอาจเป็นราชาของอาหารทั้งหมด โดยมีทั้งความเผ็ด ความมันของกะทิ ความหวาน และรสชาติจัดจ้าน อีกทั้ง “ต้มยำกุ้ง” ของไทยยังติดอันดับ 8 และ “ส้มตำไทย” ติดอันดับที่ 46 ซึ่งทั้งสองเมนูนั้นเป็นเมนูยอดนิยมทั้งของคนไทยและคนต่างชาติมายาวนานแล้ว ส่วนใน 5 อันดับแรกที่ cnn ยกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดนั้นได้แก่ – อันดับ 1 มัสมั่น ประเทศไทย – อันดับ 2 พิซซ่า Neapolitan ประเทศอิตาลี – อันดับ 3 ช็อกโกแลต ประเทศเม็กซิโก – อันดับ 4 ซูชิ ประเทศญี่ปุ่น – อันดับ 5 เป็ดปักกิ่ง ประเทศจีน สำหรับบทความจัดอันดับอาหารดังกล่าวนั้นได้เผยแพร่มาแล้วเมื่อปี 2011 จากนั้นก็ได้อัพเดทข้อมูลและเผยแพร่อีกครั้งในปี 2017 และจากนั้นก็ได้อัพเดทมาเรื่อยๆ นับแต่นั้น และเผยแพร่อีกครั้งเมื่อ 30 ก.ย. 2020 อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2GX4SFg Photo Credit by : cnn travel Article Credit by : MGR Online

ยอดเยี่ยม!! แกงมัสมั่นไทยเจ๋ง ครองแชมป์เมนูอร่อยที่สุดในโลก จัดอันดับโดย cnn travel เว็บไซต์ cnn.com จัดอันดับ 50 เมนูอร่อยทั่วโลก โดยยกแกงมัสมั่นของประเทศไทยอร่อยเป็นอันดับที่ 1 ขณะที่ “ส้มตำไทย” และ “ต้มยำกุ้ง” ก็ติดโผด้วย บทความเว็บไซต์ cnn travel เรื่อง 50 อาหารที่ดีที่สุดในโลกในปี 2020 ได้จัดอันดับให้แกงมัสมั่นของไทยมาเป็นอันดับ 1 โดยกล่าวว่า “มัสมั่น” ถือเป็นราชาแห่งแกงกะหรี่และอาจเป็นราชาของอาหารทั้งหมด โดยมีทั้งความเผ็ด ความมันของกะทิ ความหวาน และรสชาติจัดจ้าน อีกทั้ง “ต้มยำกุ้ง” ของไทยยังติดอันดับ 8 และ “ส้มตำไทย” ติดอันดับที่ 46 ซึ่งทั้งสองเมนูนั้นเป็นเมนูยอดนิยมทั้งของคนไทยและคนต่างชาติมายาวนานแล้ว ส่วนใน 5 อันดับแรกที่ cnn ยกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดนั้นได้แก่ – อันดับ 1 มัสมั่น ประเทศไทย – อันดับ […]

1 367 368 369 370 371 797
Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์