สายการบินทั่วโลกผุดไอเดียหารายได้เสริม “ขายของมือสอง-เที่ยวบินชมวิว” สายการบินทั่วโลก อาทิ แควนตัส อีวีเอ สิงคโปร์แอร์ไลน์ รวมถึงการบินไทย ต่างผุดไอเดียหารายได้เสริม ทั้งขายของมือสอง จัดเที่ยวบินชมวิว ขายอาหาร ฯลฯ เพื่อเติมเงินสดในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 นี้ ในระหว่างที่การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการบินกลายเป็นอัมพาตอยู่นี้ บรรดาสายการบินทั่วโลกต่างต้องพยายามหารายได้เสริมเพื่อสร้างกระแสเงินสดมาช่วงประคองธุรกิจ โดยนอกจากการบินไทยที่เปิดขายอาหารจากครัวการบินไทยแล้ว หลายสายการบินมีไอเดียแตกต่างกันไป ทั้งนำอุปกรณ์บนเครื่องมาขายเป็นสินค้ามือสอง เปิดเที่ยวบินชมวิวที่ขึ้นและลงในสนามบินเดิม รวมถึงเปิดให้ลองเล่นเครื่องจำลองการบิน เป็นต้น โดย สายการบิน แควนตัส ของออสเตรเลีย ได้นำรถเข็นอาหารที่ใช้บนเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 1,000 คัน ออกมาขายเป็นสินค้ามือสอง พร้อมใส่อาหาร-เครื่องดื่ม และของใช้ในรถเข็นให้ในแบบจัดเต็มเหมือนก่อนออกบิน อาทิ ไวน์ขาว-แดง ขนาด 187 ม.ล. จำนวน 160 ขวด, แชมเปญ 2 ขวด, คุ๊กกี้ 2 แพ็กใหญ่, ชุดนอน 4 ชุด, ผ้าห่มสำหรับชั้นเฟิร์สคลาส 2 ผืน เป็นต้น ในราคา 1,474.70 ดอลลาสหรัฐ หรือประมาณ 46,637 บาท ทั้งนี้ตัวแทนของสายการบินเปิดเผยกับ สำนักข่าว บิซิเนสอินไซด์เดอร์ (https://www.businessinsider.com/qantas-put-fully-stocked-bar-carts-from-747s-sale-2020-9 ) ว่า สามารถขายรถเข็นทั้ง 1,000 คัน หมดภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้สายการบินสัญชาติออสเตรเลีย กำลังศึกษาการเปิดเที่ยวบินชมวิว ซึ่งจะบินจากออสเตรเลียผ่านขั้วโลกใต้ และวนกลับมาลงจอดที่ออสเตรเลียอีกครั้งใช้เวลารวม 12 ชั่วโมง คาดว่าจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2564 ด้าน สายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ เตรียมเปิดเที่ยวบินชมวิว เช่นกัน โดยสำนักข่าว สเตรท์ไทม์ (https://www.straitstimes.com/singapore/transport/sia-looks-to-launch-flights-to-nowhere-by-end-october-to-mitigate-covid-19 ) รายงานว่า นอกจากการบินชมวิวนาน 3 ชั่วโมงแล้ว สายการบินประจำชาติสิงคโปร์ยังอาจเพิ่มจุดขายด้วย วอลเชอร์สำหรับช้อปปิ้ง บัตรโดยสารเรือเฟอร์รี่ และห้องพักโรงแรม คาดว่าจะเริ่มให้บริการปลายเดือนตุลาคม 2563 โดยโฆษกของสายการบินระบุว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งนี้เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม สายการบิน อีวีเอ ของไต้หวันได้เริ่มเที่ยวบินชมวิว ซึ่งบินจากไต้หวันผ่านเหนือเกาะริวกิวของญี่ปุ่น และวนกลับมาไต้หวันอีกครั้ง รวมเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที ในราคา 5,288 ดอลลาร์ไต้หวันฯ สำหรับตั๋วชั้นประหยัด และ 6,288 ดอลลาร์ไต้หวันฯ สำหรับชั้นบิสิเนส หรือประมาณ 5,700 บาท และ 6,800 บาท ตามลำดับ ด้านการบินไทย ล่าสุดเปิดคอร์สเทรนนิ่งสานฝันอาชีพ “นักบิน-แอร์-เชฟ” และจัดงาน “THAI Flying Experience & Beyond” ในเดือนตุลาคม 2563​ (https://www.prachachat.net/tourism/news-527393) โดยนำเครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) มาให้ผู้สนใจได้ทดลองขับเครื่องบินหลายหลายแบบทั้งแอร์บัส A380 โบอิ้ง B777-300ER โบอิ้ง B747-400 และโบอิ้ง B737-400 ​โดยมีกัปตันและนักบินผู้ช่วย (Co-Pilot) ดูแลควบคุม และอำนวยความสะดวกตลอดการทำการบิน ในราคา 12,000-36,000 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ครัวบินไทยเปิดปาท่องโก๋ (https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4982494 ) ซึ่งฮิตจนมีผู้มาต่อคิวตั้งแต่ตี 3 รวมถึงจัดงาน “อร่อยล้นฟ้า ไม่ต้องบินก็ฟินได้”​ เปิดขายอาหารจากครัวการบินไทยที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต​ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2G4lVVL Photo Credit by : Prachachat Article Credit by : Prachachat สายการบินทั่วโลกผุดไอเดียหารายได้เสริม “ขายของมือสอง-เที่ยวบินชมวิว”bit.lyสายการบินทั่วโลก อาทิ แควนตัส อีวีเอ สิงคโปร์แอร์ไลน์ รวมถึงการบินไทย ต่างผุดไอเดียหารายได้เสริม ทั้งขาย…..

สายการบินทั่วโลกผุดไอเดียหารายได้เสริม “ขายของมือสอง-เที่ยวบินชมวิว” สายการบินทั่วโลก อาทิ แควนตัส อีวีเอ สิงคโปร์แอร์ไลน์ รวมถึงการบินไทย ต่างผุดไอเดียหารายได้เสริม ทั้งขายของมือสอง จัดเที่ยวบินชมวิว ขายอาหาร ฯลฯ เพื่อเติมเงินสดในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 นี้ ในระหว่างที่การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการบินกลายเป็นอัมพาตอยู่นี้ บรรดาสายการบินทั่วโลกต่างต้องพยายามหารายได้เสริมเพื่อสร้างกระแสเงินสดมาช่วงประคองธุรกิจ โดยนอกจากการบินไทยที่เปิดขายอาหารจากครัวการบินไทยแล้ว หลายสายการบินมีไอเดียแตกต่างกันไป ทั้งนำอุปกรณ์บนเครื่องมาขายเป็นสินค้ามือสอง เปิดเที่ยวบินชมวิวที่ขึ้นและลงในสนามบินเดิม รวมถึงเปิดให้ลองเล่นเครื่องจำลองการบิน เป็นต้น โดย สายการบิน แควนตัส ของออสเตรเลีย ได้นำรถเข็นอาหารที่ใช้บนเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 1,000 คัน ออกมาขายเป็นสินค้ามือสอง พร้อมใส่อาหาร-เครื่องดื่ม และของใช้ในรถเข็นให้ในแบบจัดเต็มเหมือนก่อนออกบิน อาทิ ไวน์ขาว-แดง ขนาด 187 ม.ล. จำนวน 160 ขวด, แชมเปญ 2 ขวด, คุ๊กกี้ 2 แพ็กใหญ่, ชุดนอน 4 ชุด, ผ้าห่มสำหรับชั้นเฟิร์สคลาส 2 […]

#ก็อตซิลล่าชุบแป้งทอด ゴジラが唐揚 จะกินลงไหมหนอ 555📌”#ก็อตซิลล่าชุบแป้งทอด ゴジラが唐揚” หน้าร้านขายสาเกอุเอดะ จุดเช็กอินสุดปัง ที่น่าลองไปตามรอย ตั้งอยู่ใน เมือง Gujo Hachiman หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิวสวยน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ในจังหวัด Gifu ภูมิภาคชูบุ ที่นี่ยังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตโมเดลอาหารในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ 😊 🙏ขอบคุณภาพประกอบจาก https://twitter.com/shunshun0211/status/1223962411029254144/photo/1 #เที่ยวญี่ปุ่น #Gifu

#ก็อตซิลล่าชุบแป้งทอด ゴジラが唐揚 จะกินลงไหมหนอ 555 📌”#ก็อตซิลล่าชุบแป้งทอด ゴジラが唐揚” หน้าร้านขายสาเกอุเอดะ จุดเช็กอินสุดปัง ที่น่าลองไปตามรอย ตั้งอยู่ใน เมือง Gujo Hachiman หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิวสวยน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ในจังหวัด Gifu ภูมิภาคชูบุ ที่นี่ยังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตโมเดลอาหารในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ 😊 🙏ขอบคุณภาพประกอบจาก https://twitter.com/shunshun0211/status/1223962411029254144/photo/1 #เที่ยวญี่ปุ่น #Gifu อ่านต่อบน Facebook

หายหน้าหายตาไปนานกันเลยทีเดียว แอดมินก็พักร่าง พักใจไปกับโควิด 19 กลับมาช่วงนี้พยายามจะหาข้อมูลที่จะแชร์และแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ช้อปปิ้งสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น 5 ร้านทีี่นำเข้าสินค้าญี่ปุ่นสุดฮิตในไทย เผื่อจะทำให้เพื่อนๆแฟนเพจ Japan On Tour หายคิดถึงประเทศญี่ปุ่นได้บ้าง…และอดใจรอกันอีกนิดนะครับ ในการเปิดประเทศญี่ปุ่นให้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อีกครั้งนึง แนะนำ 5 ร้านนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นสุดฮิตในไทย – มาสิบล็อก | masii Blogmasii.co.thFacebookTwitterGoogle PlusLineสำหรับคนไทยที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น คงรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินเวลาได้ช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ จากญี่ป….

หายหน้าหายตาไปนานกันเลยทีเดียว แอดมินก็พักร่าง พักใจไปกับโควิด 19 กลับมาช่วงนี้พยายามจะหาข้อมูลที่จะแชร์และแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ช้อปปิ้งสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น 5 ร้านทีี่นำเข้าสินค้าญี่ปุ่นสุดฮิตในไทย เผื่อจะทำให้เพื่อนๆแฟนเพจ Japan On Tour หายคิดถึงประเทศญี่ปุ่นได้บ้าง…และอดใจรอกันอีกนิดนะครับ ในการเปิดประเทศญี่ปุ่นให้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อีกครั้งนึง FacebookTwitterGoogle PlusLineสำหรับคนไทยที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น คงรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินเวลาได้ช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ จากญี่ป…. อ่านต่อบน Facebook

ไอเดียเจ๋ง! “หน้ากากราเมน” สู้โควิด-19 สไตล์ญี่ปุ่น ศิลปินชาวญี่ปุ่นผุดแมสก์ 3 มิติ รูปราเมน ที่เห็นแล้วอาจเกิดอาการหิว เพราะว่าเหมือนจริงสุดๆ ทากาฮิโระ ชิบาตะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นวัย 28 ปี สร้างสรรค์หน้ากากอนามัย 3 มิติได้ไอเดียจากเมนูเส้นยอดฮิตของญี่ปุ่น นั่นก็คือราเมน เห็นแล้วอาจจะชวนให้คนที่ชมอยู่เกิดอาการหิวขึ้นมาได้ หน้ากากอนามัยสุดแปลกนี้ เป็นหน้ากากอนามัยสามมิติรูปชามราเมนแบ่งครึ่งชาม มีทั้งหมูชาชู หน่อไม้ ต้นหอมซอย ลูกชิ้นปลาเนื้อขาว เส้นราเมนจัดวางในชามสุดน่ารับประทาน เมื่อคนใส่แว่นสวมใส่หน้ากากราเมนนี้ไปสักพักหนึ่ง จะมีฝ้าขึ้นตรงเลนส์แว่น ให้ความรู้สึกคล้ายกับกำลังคีบเส้นราเมนร้อนๆ รับประทาน โดยตอนแรกเจ้าตัวตั้งใจจะผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับคนใส่แว่นตา เพราะเมื่อคนใส่แว่นตาสวมหน้ากากอนามัย ปัญหาที่พบคือจะมีไอน้ำ หรือ ฝ้าขึ้นที่เลนส์แว่น กลายเป็นอุปสรรคการใช้ชีวิต แต่ลองผิดลองถูกอยู่นาน เจ้าตัวพบว่า มันยากมากที่จะทำหน้ากากอนามัยแก้ปัญหาฝ้าขึ้นแว่นตา เขาจึงตัดสินใจสร้างสรรค์หน้ากากแบบไม่เหมือนใครแทน ซึ่งคุณชิบาตะ ตัดสินใจนำดินเหนียวมาเป็นปั้นเป็นส่วนผสมของหน้ากากราเมนชามนี้ เพื่อให้เป็นหน้ากากที่ใส่แล้วคลายเครียดให้กับคนยุคโควิด-19 ตอนนี้หน้ากากราเมนเป็นเพียงงานศิลปะเท่านั้น ทางศิลปินผู้คิดค้นยังไม่ได้ตั้งราคาขายแต่อย่างใด อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2RZIBZF Photo Credit by : TNN Thailand Article Credit by : TNN Thailand ไอเดียเจ๋ง! หน้ากากราเมนสู้โควิด-19 สไตล์ญี่ปุ่นbit.lyศิลปินชาวญี่ปุ่นผุดแมสก์ 3 มิติ รูปราเมน ที่เห็นแล้วอาจเกิดอาการหิว เพราะว่าเหมือนจริงสุดๆ

ไอเดียเจ๋ง! “หน้ากากราเมน” สู้โควิด-19 สไตล์ญี่ปุ่น ศิลปินชาวญี่ปุ่นผุดแมสก์ 3 มิติ รูปราเมน ที่เห็นแล้วอาจเกิดอาการหิว เพราะว่าเหมือนจริงสุดๆ ทากาฮิโระ ชิบาตะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นวัย 28 ปี สร้างสรรค์หน้ากากอนามัย 3 มิติได้ไอเดียจากเมนูเส้นยอดฮิตของญี่ปุ่น นั่นก็คือราเมน เห็นแล้วอาจจะชวนให้คนที่ชมอยู่เกิดอาการหิวขึ้นมาได้ หน้ากากอนามัยสุดแปลกนี้ เป็นหน้ากากอนามัยสามมิติรูปชามราเมนแบ่งครึ่งชาม มีทั้งหมูชาชู หน่อไม้ ต้นหอมซอย ลูกชิ้นปลาเนื้อขาว เส้นราเมนจัดวางในชามสุดน่ารับประทาน เมื่อคนใส่แว่นสวมใส่หน้ากากราเมนนี้ไปสักพักหนึ่ง จะมีฝ้าขึ้นตรงเลนส์แว่น ให้ความรู้สึกคล้ายกับกำลังคีบเส้นราเมนร้อนๆ รับประทาน โดยตอนแรกเจ้าตัวตั้งใจจะผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับคนใส่แว่นตา เพราะเมื่อคนใส่แว่นตาสวมหน้ากากอนามัย ปัญหาที่พบคือจะมีไอน้ำ หรือ ฝ้าขึ้นที่เลนส์แว่น กลายเป็นอุปสรรคการใช้ชีวิต แต่ลองผิดลองถูกอยู่นาน เจ้าตัวพบว่า มันยากมากที่จะทำหน้ากากอนามัยแก้ปัญหาฝ้าขึ้นแว่นตา เขาจึงตัดสินใจสร้างสรรค์หน้ากากแบบไม่เหมือนใครแทน ซึ่งคุณชิบาตะ ตัดสินใจนำดินเหนียวมาเป็นปั้นเป็นส่วนผสมของหน้ากากราเมนชามนี้ เพื่อให้เป็นหน้ากากที่ใส่แล้วคลายเครียดให้กับคนยุคโควิด-19 ตอนนี้หน้ากากราเมนเป็นเพียงงานศิลปะเท่านั้น ทางศิลปินผู้คิดค้นยังไม่ได้ตั้งราคาขายแต่อย่างใด อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2RZIBZF Photo Credit by : TNN […]

12 ร้าน บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ในกรุงเทพ โคตรพรีเมี่ยม ราคาโลว์คอสต์ ไปกันเลย ! 12 ร้าน บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ในกรุงเทพ โคตรพรีเมี่ยม ราคาโลว์คอสต์ ไปกันเลย !food.trueid.netตามไปกิน บุฟเฟ่ต์ อาหารญี่ปุ่น สุดพรีเมี่ยม ที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ กันดีกว่าครับ ครั้งนี้ เราได้ รวม 10 ร้า…

12 ร้าน บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ในกรุงเทพ โคตรพรีเมี่ยม ราคาโลว์คอสต์ ไปกันเลย ! ตามไปกิน บุฟเฟ่ต์ อาหารญี่ปุ่น สุดพรีเมี่ยม ที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ กันดีกว่าครับ ครั้งนี้ เราได้ รวม 10 ร้า… อ่านต่อบน Facebook

7 ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 39 7 ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 39 – THE STANDARDthestandard.coเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าถ้าอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับก็ต้องไปที่ย่านพร้อมพงษ์ที่เต็มไปด้วยร…

7 ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 39 เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าถ้าอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับก็ต้องไปที่ย่านพร้อมพงษ์ที่เต็มไปด้วยร… อ่านต่อบน Facebook

ญี่ปุ่นเน้นร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาสู้โควิด-19 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ว่าที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เผยแพร่คลิปบันทึกการแถลงของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ ผู้นำญี่ปุ่น มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็น “วิกฤติด้านความปลอดภัย” ที่คุกคามการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกสามารถพลิกวิกฤติครั้งนี้ ให้กลายเป็นโอกาสของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันได้ ทั้งนี้ ในส่วนของญี่ปุ่นนั้น ซึงะกล่าวว่ารัฐบาลมอบความสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับโครงการพัฒนาแนวทางการรักษาโรคดังกล่าว ตลอดจนการคิดค้นวัคซีนป้องกัน และแนวทางอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้การตอบสนองต่อโรคนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงกระบวนการทั้งหมดได้อย่างเท่าเทียม ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม โลกต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดชนิดใหม่ที่อาจเกิดขึ้นอีกหลังจากนี้ โดยรัฐบาลโตเกียวขยายความร่วมมือในเรื่องนี้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยกตัวอย่างโครงการร่วมมือกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมด้านสาธารณสุขและโรคติดต่ออุบัติใหม่ระดับภูมิภาค ความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสนับสนุนสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมูลค่า 400,000 ล้านเยน ( ราว119,709.68 ล้านบาท ) ขณะเดียวกัน ซึงะยืนยัน “ความพร้อมระดับสูงสุด” ของทุกภาคส่วนในญี่ปุ่น สำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน “โตเกียวเกมส์” ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามกำหนดการในปีนี้ เพราะวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 โดยผู้นำญี่ปุ่นยืนยันการให้ความสำคัญสูงสุด กับความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้กับนักกีฬา และทีมงานของทุกประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังกล่าวถึงประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะการยินดีพบหารือ “โดยไม่มีเงื่อนไขล่วงหน้า” กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อเจรจาเรื่องชาวญี่ปุ่นซึ่งถูกลักพาตัวไปในเกาหลีเหนือ โดยเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะด้วย อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/30camCR Photo Credit by : Dailynews Article Credit by : Dailynews ญี่ปุ่นเน้นร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาสู้โควิด-19bit.lyนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อการร่วมมือกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา อาทิ อาเซียน เพื่อจัดการกับวิกฤติ…

ญี่ปุ่นเน้นร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาสู้โควิด-19 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ว่าที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เผยแพร่คลิปบันทึกการแถลงของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ ผู้นำญี่ปุ่น มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็น “วิกฤติด้านความปลอดภัย” ที่คุกคามการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกสามารถพลิกวิกฤติครั้งนี้ ให้กลายเป็นโอกาสของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันได้ ทั้งนี้ ในส่วนของญี่ปุ่นนั้น ซึงะกล่าวว่ารัฐบาลมอบความสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับโครงการพัฒนาแนวทางการรักษาโรคดังกล่าว ตลอดจนการคิดค้นวัคซีนป้องกัน และแนวทางอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้การตอบสนองต่อโรคนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงกระบวนการทั้งหมดได้อย่างเท่าเทียม ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม โลกต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดชนิดใหม่ที่อาจเกิดขึ้นอีกหลังจากนี้ โดยรัฐบาลโตเกียวขยายความร่วมมือในเรื่องนี้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยกตัวอย่างโครงการร่วมมือกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมด้านสาธารณสุขและโรคติดต่ออุบัติใหม่ระดับภูมิภาค ความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสนับสนุนสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมูลค่า 400,000 ล้านเยน ( ราว119,709.68 ล้านบาท ) ขณะเดียวกัน ซึงะยืนยัน “ความพร้อมระดับสูงสุด” ของทุกภาคส่วนในญี่ปุ่น สำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน “โตเกียวเกมส์” ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามกำหนดการในปีนี้ เพราะวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 โดยผู้นำญี่ปุ่นยืนยันการให้ความสำคัญสูงสุด กับความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้กับนักกีฬา และทีมงานของทุกประเทศ นอกจากนี้ […]

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ รับหน้ากากอนามัยไหมคะ ล๊อตใหม่มาแล้ว พร้อมจัดส่งเลยค่ะ^^ Add Line : https://line.me/ti/p/%40epc2166rหน้ากากอนามัย 😷 มาตรฐาน ประเทศ ญี่ปุ่น ค่ะ ถึงมาช้าแต่ก็มานะ..ตอนนี้ของอยู่ที่เมืองไทยแล้วค่ะ พร้อมส่ง…ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ รับกี่กล่องดีคะ^^ ของที่เราเลือกมาขาย ทุกชิ้นผ่านมาตรฐานแน่นอนค่ะ *ราคาไม่รวมส่งค่ะ สั่งสินค้าโทร 02-612-8500 (10.00-16.00) >จะทักแชท หรือแอดไลน์เข้ามาสั่งก็ยินดีค่ะ< ไอดีไลน์ : @s026128500 #SiamOrchardGroup #หน้ากากอนามัย #siamorchardmarket

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ รับหน้ากากอนามัยไหมคะ ล๊อตใหม่มาแล้ว พร้อมจัดส่งเลยค่ะ^^ Add Line : https://line.me/ti/p/%40epc2166r หน้ากากอนามัย 😷 มาตรฐาน ประเทศ ญี่ปุ่น ค่ะ ถึงมาช้าแต่ก็มานะ..ตอนนี้ของอยู่ที่เมืองไทยแล้วค่ะ พร้อมส่ง…ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ รับกี่กล่องดีคะ^^ ของที่เราเลือกมาขาย ทุกชิ้นผ่านมาตรฐานแน่นอนค่ะ *ราคาไม่รวมส่งค่ะ สั่งสินค้าโทร 02-612-8500 (10.00-16.00) >จะทักแชท หรือแอดไลน์เข้ามาสั่งก็ยินดีค่ะ< ไอดีไลน์ : @s026128500 #SiamOrchardGroup #หน้ากากอนามัย #siamorchardmarket อ่านต่อบน Facebook

บริษัทผลิตยาของจีน ประกาศกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกต้นปีหน้า “SinoVac” ผู้ผลิตยาของจีน ประกาศ พร้อมกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกในช่วงต้นปีหน้า วันนี้ (25ก.ย.63) ซิโนแวก( SinoVac) บริษัทผู้ผลิตยาจากประเทศจีน พร้อมที่นำวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ออกใช้งานจริงภายในช่วงต้นปีหน้า โดยพร้อมที่จะกระจายวัคซีนไปทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา หากได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA นายหยิน เว่ย ตง , CEO ของบริษัทซิโนแวก กล่าวว่า ในตอนนี้ วัคซีนอยู่ในช่วงการพัฒนาเฟส 3 หรือการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นมนุษย์ โดย มีกลุ่มอาสาสมัคร 24,000 คนในประเทศบราซิล เข้ารับการทดสอบและรอดูการสร้างภูมิ ตลอดจนผลข้างเคียง ก่อนที่จะเข้าสู่การทดลองในเฟสุดท้าย นายหยิน เชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้ เพราะได้ทดสอบวัคซีด้วยตนเอง นอกจากนี้ ทาง ชิโนแวก ยังผลิตวัคซีน สูตรที่เหมาะสมกับ เด็กและคนชรา ที่มีภูมิต้านทานของร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไป ควบคู่ไปด้วย ช่วงแรกนั้น ทางบริษัท ซิโนแวก ตั้งเป้าหมายการพรัฒนาวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาการแพร่าระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่เมืองอู่ฮั่น แต่ได้ปรับแผนการผลิต เพื่อรองรับการผลิตจำนวนหลายร้อยล้านโดส เมื่อ ไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่จนถึงขณะนี้ หลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ,ประเทศในยุโรป , ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ขอทดสอบวัคซีนจากประเทศจีนอย่างละเอียด โดยยังไม่มีการทำสัญญาสั่งซื้อจนกว่าจะแน่ใจเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ มีบริษัทยาในประเทศสจีน 4 แห่ง ที่มีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ได้แก่ ซิโนแวก ,ชิโนฟาร์ม (SinoPharm) , และ แคนชิโน (CanSino) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ที่ผลิตวัคซีนออกมาอีก 2 ตัว โดย 1 ในวัคซีนของ แคนชิโน เป็นการผผลิตอย่างเร่งด่วนเพื่อใช้กับทหารในกองทัพ อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/2HmWqzh Photo Credit by : TNN Article Credit by : TNN บริษัทผลิตยาของจีนประกาศกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกต้นปีหน้าbit.lyบริษัท SinoVac ผู้ผลิตยาของจีน ประกาศ พร้อมกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกในช่วงต้นปีหน้า

บริษัทผลิตยาของจีน ประกาศกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกต้นปีหน้า “SinoVac” ผู้ผลิตยาของจีน ประกาศ พร้อมกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกในช่วงต้นปีหน้า วันนี้ (25ก.ย.63) ซิโนแวก( SinoVac) บริษัทผู้ผลิตยาจากประเทศจีน พร้อมที่นำวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ออกใช้งานจริงภายในช่วงต้นปีหน้า โดยพร้อมที่จะกระจายวัคซีนไปทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา หากได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA นายหยิน เว่ย ตง , CEO ของบริษัทซิโนแวก กล่าวว่า ในตอนนี้ วัคซีนอยู่ในช่วงการพัฒนาเฟส 3 หรือการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นมนุษย์ โดย มีกลุ่มอาสาสมัคร 24,000 คนในประเทศบราซิล เข้ารับการทดสอบและรอดูการสร้างภูมิ ตลอดจนผลข้างเคียง ก่อนที่จะเข้าสู่การทดลองในเฟสุดท้าย นายหยิน เชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้ เพราะได้ทดสอบวัคซีด้วยตนเอง นอกจากนี้ ทาง ชิโนแวก ยังผลิตวัคซีน สูตรที่เหมาะสมกับ เด็กและคนชรา ที่มีภูมิต้านทานของร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไป ควบคู่ไปด้วย ช่วงแรกนั้น ทางบริษัท ซิโนแวก ตั้งเป้าหมายการพรัฒนาวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาการแพร่าระบาดของไวรัสโควิด 19 […]

รอจนเหนื่อยใจ รถไฟฟ้าไทยไม่ใช้บัตรร่วมสักที!!! องค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ประชากรในกรุงเทพฯ จะเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านคน (ข้อมูลล่าสุด กรุงเทพฯ มีประชากรทั้งสิ้น 5.6 ล้านคน สำนักทะเบียนกลาง ) การคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติจึงเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ สำหรับหนึ่งในมหานครที่มีความคึกคักที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าการเติบโตในระดับนี้และการดึงดูดคนเข้ามาในเมืองมีข้อดีหลายอย่าง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างปัญหาการจราจร โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สามารถรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นได้ ระบบการเงินที่ทุกคนไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกภาคส่วน และสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง รวมไปถึงระบบขนส่งมวลชนหากไม่มีการการวางแผนและการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ประชาชนเลือกที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนน้อยลง ซึ่งส่งผลให้การจราจรในเมืองหนาแน่นขึ้น มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มสถานีและเส้นทางบริการขนส่ง BTS และ MRT ให้เพิ่มยิ่งขึ้นกว่าที่มีอยู่ การต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋วทำให้เกิดความล่าช้า และการขนส่งคนจำนวนมากไปตามเครือข่ายเส้นทางขนส่งเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง นับเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่ กรุงเทพฯ จะเป็นหนึ่งใน ‘เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ’ ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมืองเหล่านี้จะมีการเชื่อมต่อ โดยการใช้บิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตพื้นฐานของผู้คนง่ายขึ้น และปูทางสำหรับการพัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะอย่างยั่งยืนต่อไป ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนก็ว่าได้ ความหมายของเมืองใหญ่มักเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน (เช่น ลอนดอนหรือโตเกียว) แต่สำหรับเมืองอัจฉริยะ ระบบการเดินทางขนส่งถือเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อองค์ประกอบต่างๆ ที่วุ่นวายในเมืองใหญ่เข้าด้วยกัน ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อช่วยลดความแออัดในการเดินทาง ลดจำนวนประชากรที่ต้องการเข้ามาอยู่อาศัยในย่านใจกลางเมือง CBD และช่วยให้คนที่เข้าอยู่อาศัยใหม่ในเมืองปรับใช้ระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น สำหรับเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ ระบบขนส่งมวลชนไม่ใช่ระบบที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่กลับเป็นเครือข่ายที่ ‘มีชีวิต’ สามารถตอบสนองการเดินทางที่มีความคล่องตัวได้ตลอดเวลา ผู้เดินทางจ่ายเงินแบบไร้สัมผัสแบบข้ามเครือข่ายผู้ให้บริการขนส่งซึ่งเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย ทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกทั่วเมือง และเพื่อให้ระบบการเดินทางแบบนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด การจ่ายค่าเดินทางแบบ ‘open-loop’ จะเป็นระบบมาตรฐานที่ดีที่สุด เพราะเป็นระบบที่ผู้โดยสารไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่วิธีการจ่ายเงินแบบใดแบบหนึ่งกับการบริการในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง แต่กลับสามารถจ่ายได้ทุกเครือข่ายการเดินทางไม่ว่าจะด้วยบัตรคอนแทคเลส สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ วิธีดังกล่าวถูกนำไปใช้แล้วในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกและให้ผลที่น่าพอใจแก่ผู้ให้บริการระบบขนส่งในแง่ของประสิทธิภาพ พร้อมให้ประสบการณ์การเดินทางที่น่าพอใจแก่ผู้เดินทางเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น มาสเตอร์การ์ดได้ช่วยวางระบบจ่ายเงินแบบ open-loop แก่มหานครลอนดอน จนสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึงปีละ 130 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียงนำวิธีใหม่ในการจ่ายค่าตั๋วเดินทางมาใช้ และที่แวนคูเวอร์ ภายใน 2 เดือนหลังจากวางระบบและใช้วิธีการจ่ายค่าตั๋วแบบ open-loop มีผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนหันมาใช้วิธีการจ่ายแบบคอนแท็คเลสเป็นจำนวนถึงหนึ่งล้านคน จากเดิมที่ไม่มีผู้ใช้เลย ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะแบบ open-loop นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถรวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงระบบการจัดการได้อย่างต่อเนื่อง (เช่น จัดตารางเวลาการเดินรถให้เหมาะกับจำนวนผู้โดยสาร) อีกทั้งยังช่วยให้รัฐบาลรับรู้ถึงการเดินทางของประชาชนในเมือง ซึ่งเป็นข้อมูลให้รัฐจัดการวางผังเมืองและบริการอื่นๆได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น สำหรับกรุงเทพฯ การปรับเปลี่ยนการขนส่งมวลชนในภาพใหญ่นั้น จะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่ากรุงเทพฯ จะสามารถรองรับการขยายเมือง และมีระบบที่ยั่งยืนที่ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์ ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของทั้งผู้อยู่อาศัยและนักเดินทางได้ดีขึ้น เมื่อต้นปีนี้ มาสเตอร์การ์ดได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล “ดีป้า” (depa) เพื่อช่วยพัฒนา 27 จังหวัดนำร่องของไทยให้ก้าวสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะในเครือข่าย City Possible ณ ปัจจุบัน มีจังหวัดที่เข้าร่วมในเครือข่าย City Possible แล้วทั้งหมด 40 จังหวัด สำหรับ City Possible ริเริ่มโดยมาสเตอร์การ์ดเป็นความร่วมมือและความคิดริเริ่มร่วมกันเพื่อนำเมืองใหญ่ต่างๆ ธุรกิจและชุมชนมาร่วมกันชี้เป้าความท้าทาย พร้อมกับร่วมกันคิดหาทางแก้ที่จะทำให้การพัฒนาเมืองมีความยั่งยืนและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม โดยใช้บทเรียนและประสบการณ์จากเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลกเช่น ลอนดอน นิวยอร์ค ซิดนีย์ สิงคโปร์ และเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งนำระบบการจ่ายเงินแบบดิจิทัลที่เป็น open loop มาใช้ข้ามเครือข่ายผู้ให้บริการเส้นทางขนส่งอย่างเต็มรูปแบบและยังคงตอบสนองความต้องการเฉพาะในแต่ละเมืองได้ ทั้งนี้ ในปี 2019 มาสเตอร์การ์ดเป็นเครือข่ายการจ่ายเงินข้ามประเทศรายแรกที่ร่วมมือกับหน่วยงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (Land Transport Authority – LTA) เพื่อเปิดตัว SimplyGo ซึ่งช่วยให้ผู้เดินทางสามารถจ่ายค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชนสาธารณะด้วยโมบายล์วอลเล็ต อุปกรณ์แบบสวมใส่ และบัตรคอนแทคเลส ด้วย ระบบที่ใช้วิธีการจ่ายเงินเดียวกับทุกเครือข่ายการเดินทางเป็นทางเลือกที่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการเทคโนโลยี หน่วยงานด้านการเดินทางและเครือข่ายผู้ให้บริการกำลังเร่งนำระบบดังกล่าวมาใช้ทั่วโลก ผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และผู้ที่มาเยือนสามารถมั่นใจได้ว่า เมื่อกรุงเทพฯ พัฒนาสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ การจ่ายเงินเพื่อเดินทางจะยิ่งสะดวกราบรื่นและปลอดภัย เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ด้านของชีวิตในเมืองใหญ่ ไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด #ร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆที่TCS #สังคมไทยไร้เงินสด = New NormalPhotos from Thai-Cashless-Society สังคมไทยไร้เงินสด’s post

รอจนเหนื่อยใจ รถไฟฟ้าไทยไม่ใช้บัตรร่วมสักที!!! องค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ประชากรในกรุงเทพฯ จะเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านคน (ข้อมูลล่าสุด กรุงเทพฯ มีประชากรทั้งสิ้น 5.6 ล้านคน สำนักทะเบียนกลาง ) การคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติจึงเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ สำหรับหนึ่งในมหานครที่มีความคึกคักที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าการเติบโตในระดับนี้และการดึงดูดคนเข้ามาในเมืองมีข้อดีหลายอย่าง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างปัญหาการจราจร โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สามารถรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นได้ ระบบการเงินที่ทุกคนไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกภาคส่วน และสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง รวมไปถึงระบบขนส่งมวลชนหากไม่มีการการวางแผนและการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ประชาชนเลือกที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนน้อยลง ซึ่งส่งผลให้การจราจรในเมืองหนาแน่นขึ้น มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มสถานีและเส้นทางบริการขนส่ง BTS และ MRT ให้เพิ่มยิ่งขึ้นกว่าที่มีอยู่ การต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋วทำให้เกิดความล่าช้า และการขนส่งคนจำนวนมากไปตามเครือข่ายเส้นทางขนส่งเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง นับเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่ กรุงเทพฯ จะเป็นหนึ่งใน ‘เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ’ ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมืองเหล่านี้จะมีการเชื่อมต่อ โดยการใช้บิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตพื้นฐานของผู้คนง่ายขึ้น และปูทางสำหรับการพัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะอย่างยั่งยืนต่อไป ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนก็ว่าได้ ความหมายของเมืองใหญ่มักเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน (เช่น ลอนดอนหรือโตเกียว) แต่สำหรับเมืองอัจฉริยะ ระบบการเดินทางขนส่งถือเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อองค์ประกอบต่างๆ ที่วุ่นวายในเมืองใหญ่เข้าด้วยกัน ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อช่วยลดความแออัดในการเดินทาง ลดจำนวนประชากรที่ต้องการเข้ามาอยู่อาศัยในย่านใจกลางเมือง CBD และช่วยให้คนที่เข้าอยู่อาศัยใหม่ในเมืองปรับใช้ระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น […]

1 372 373 374 375 376 797
Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์