โควิดบนเรือสำราญสิงคโปร์: กรณีศึกษาการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ทริปล่องเรือสำราญชมวิวโดยไม่แวะลงเรือ (cruise to nowhere) ของผู้โดยสาร 1,680 คน และลูกเรืออีก 1,148 คนบนเรือสำราญควอนตัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Quantum of the Seas) ต้องจบลงในวันที่ 3 จากเดิมที่ต้องแล่นเรือทั้งหมด 4 วัน หลังผู้โดยสารวัย 83 ปีมีผลตรวจ Covid-19 เป็นบวก เรือสำราญลำนี้จะมีมาตรการคัดกรองและป้องกันที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกายผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งทั้งหมดมีผลตรวจเป็นลบ ลดจำนวนผู้โดยสารเหลือครึ่งหนึ่งของความจุเรือ จัดสถานที่ให้ถูกสุขอนามัย ปรับปรุงระบบการไหลเวียนอากาศ ไปจนถึงการบังคับให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และให้พนักงานเสิร์ฟอาหารสวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่มาตรการเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอรับมือกับเชื้อโคโรนาไวรัส เรนา แม็คอินไทร์ ศาสตราจารย์ด้านความปลอดภัยทางชีวภาพจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเผยว่า “แม้ในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเรือสำราญเป็นจุดเสี่ยงของการแพร่ระบาด และการระบาดนี้สามารถเล็ดลอดออกไปยังชุมชนได้ ขณะนี้การแพร่ระบาดรุนแรงกว่าเมื่อเดือน พ.ค.ซึ่งเรือสำราญหยุดให้บริการ นั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่ผู้โดยสารหรือลูกเรือที่ติดเชื้อจะขึ้นเรือก็สูงขึ้นด้วย” เหตุการณ์ล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่สองที่แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของสิงคโปร์สะดุดในรอบไม่กี่เดือน หลังจากที่ต้องพับโครงการทราเวล บับเบิลกับฮ่องกงทั้งที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น เนื่องจาก Covid-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในฮ่องกง ความล้มเหลวของสิงคโปร์ที่พยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างได้ดีว่าแม้ในประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศแทบจะเป็นศูนย์ติดต่อกันหลายสัปดาห์ก็ยังไม่ง่ายที่จะเดินหน้าการท่องเที่ยวอีกครั้ง และสิงคโปร์ก็ไม่ใช่ชาติเดียวที่แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวสะดุด โครงการ “ออกไปเที่ยว” ของญี่ปุ่นที่รัฐสนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวในพื้นที่ที่ขาดนักท่องเที่ยวช่วง Covid-19 ระบาด ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงขั้นล้อเลียนว่าเป็นโครงการ “ไปโรงพยาบาล” เพราะอาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด ขณะที่บาหลีของอินโดนีเซียที่มีแผนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาก็ต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูง ส่วนประเทศไทยเริ่มด้วยการรับนักท่องเที่ยว 1,000 คนจากเดิมที่เคยต้อนรับนักท่องเที่ยว 3.1 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3ma3rlP Photo Credit by : Posttoday Article Credit by : Posttoday

โควิดบนเรือสำราญสิงคโปร์: กรณีศึกษาการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ทริปล่องเรือสำราญชมวิวโดยไม่แวะลงเรือ (cruise to nowhere) ของผู้โดยสาร 1,680 คน และลูกเรืออีก 1,148 คนบนเรือสำราญควอนตัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Quantum of the Seas) ต้องจบลงในวันที่ 3 จากเดิมที่ต้องแล่นเรือทั้งหมด 4 วัน หลังผู้โดยสารวัย 83 ปีมีผลตรวจ Covid-19 เป็นบวก เรือสำราญลำนี้จะมีมาตรการคัดกรองและป้องกันที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกายผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งทั้งหมดมีผลตรวจเป็นลบ ลดจำนวนผู้โดยสารเหลือครึ่งหนึ่งของความจุเรือ จัดสถานที่ให้ถูกสุขอนามัย ปรับปรุงระบบการไหลเวียนอากาศ ไปจนถึงการบังคับให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และให้พนักงานเสิร์ฟอาหารสวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่มาตรการเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอรับมือกับเชื้อโคโรนาไวรัส เรนา แม็คอินไทร์ ศาสตราจารย์ด้านความปลอดภัยทางชีวภาพจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเผยว่า “แม้ในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเรือสำราญเป็นจุดเสี่ยงของการแพร่ระบาด และการระบาดนี้สามารถเล็ดลอดออกไปยังชุมชนได้ ขณะนี้การแพร่ระบาดรุนแรงกว่าเมื่อเดือน พ.ค.ซึ่งเรือสำราญหยุดให้บริการ นั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่ผู้โดยสารหรือลูกเรือที่ติดเชื้อจะขึ้นเรือก็สูงขึ้นด้วย” เหตุการณ์ล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่สองที่แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของสิงคโปร์สะดุดในรอบไม่กี่เดือน หลังจากที่ต้องพับโครงการทราเวล บับเบิลกับฮ่องกงทั้งที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น เนื่องจาก Covid-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในฮ่องกง ความล้มเหลวของสิงคโปร์ที่พยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างได้ดีว่าแม้ในประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศแทบจะเป็นศูนย์ติดต่อกันหลายสัปดาห์ก็ยังไม่ง่ายที่จะเดินหน้าการท่องเที่ยวอีกครั้ง และสิงคโปร์ก็ไม่ใช่ชาติเดียวที่แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวสะดุด โครงการ “ออกไปเที่ยว” ของญี่ปุ่นที่รัฐสนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวในพื้นที่ที่ขาดนักท่องเที่ยวช่วง Covid-19 ระบาด ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงขั้นล้อเลียนว่าเป็นโครงการ “ไปโรงพยาบาล” เพราะอาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด ขณะที่บาหลีของอินโดนีเซียที่มีแผนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาก็ต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูง ส่วนประเทศไทยเริ่มด้วยการรับนักท่องเที่ยว 1,000 คนจากเดิมที่เคยต้อนรับนักท่องเที่ยว 3.1 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3ma3rlP Photo Credit by : Posttoday Article Credit by : Posttoday

แชร์ให้เพื่อน!

โควิดบนเรือสำราญสิงคโปร์: กรณีศึกษาการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง

ทริปล่องเรือสำราญชมวิวโดยไม่แวะลงเรือ (cruise to nowhere) ของผู้โดยสาร 1,680 คน และลูกเรืออีก 1,148 คนบนเรือสำราญควอนตัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Quantum of the Seas) ต้องจบลงในวันที่ 3 จากเดิมที่ต้องแล่นเรือทั้งหมด 4 วัน หลังผู้โดยสารวัย 83 ปีมีผลตรวจ Covid-19 เป็นบวก

เรือสำราญลำนี้จะมีมาตรการคัดกรองและป้องกันที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกายผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งทั้งหมดมีผลตรวจเป็นลบ ลดจำนวนผู้โดยสารเหลือครึ่งหนึ่งของความจุเรือ จัดสถานที่ให้ถูกสุขอนามัย ปรับปรุงระบบการไหลเวียนอากาศ ไปจนถึงการบังคับให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และให้พนักงานเสิร์ฟอาหารสวมอุปกรณ์ป้องกัน

แต่มาตรการเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอรับมือกับเชื้อโคโรนาไวรัส

เรนา แม็คอินไทร์ ศาสตราจารย์ด้านความปลอดภัยทางชีวภาพจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเผยว่า “แม้ในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเรือสำราญเป็นจุดเสี่ยงของการแพร่ระบาด และการระบาดนี้สามารถเล็ดลอดออกไปยังชุมชนได้ ขณะนี้การแพร่ระบาดรุนแรงกว่าเมื่อเดือน พ.ค.ซึ่งเรือสำราญหยุดให้บริการ นั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่ผู้โดยสารหรือลูกเรือที่ติดเชื้อจะขึ้นเรือก็สูงขึ้นด้วย”

เหตุการณ์ล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่สองที่แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของสิงคโปร์สะดุดในรอบไม่กี่เดือน หลังจากที่ต้องพับโครงการทราเวล บับเบิลกับฮ่องกงทั้งที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น เนื่องจาก Covid-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในฮ่องกง

ความล้มเหลวของสิงคโปร์ที่พยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างได้ดีว่าแม้ในประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศแทบจะเป็นศูนย์ติดต่อกันหลายสัปดาห์ก็ยังไม่ง่ายที่จะเดินหน้าการท่องเที่ยวอีกครั้ง

และสิงคโปร์ก็ไม่ใช่ชาติเดียวที่แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวสะดุด โครงการ “ออกไปเที่ยว” ของญี่ปุ่นที่รัฐสนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวในพื้นที่ที่ขาดนักท่องเที่ยวช่วง Covid-19 ระบาด ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงขั้นล้อเลียนว่าเป็นโครงการ “ไปโรงพยาบาล” เพราะอาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด

ขณะที่บาหลีของอินโดนีเซียที่มีแผนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาก็ต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูง ส่วนประเทศไทยเริ่มด้วยการรับนักท่องเที่ยว 1,000 คนจากเดิมที่เคยต้อนรับนักท่องเที่ยว 3.1 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3ma3rlP
Photo Credit by : Posttoday
Article Credit by : Posttoday

131124118_3311276902310030_6989340606059

อ่านต่อบน Facebook

Tourmatoes มะเขือเทศทัวร์